Tuesday, 29 November 2022

"ไปก่อนนะ" ในภาษาจีนมีอะไรบ้างมาดูกันเลย

มีหลายวิธีในการพูดว่า "ฉันต้องไปแล้ว" ในภาษาจีน  ลองมาดูกันค่ะว่าพูดแบบไหนได้บ้าง

- 我先走了. (Wǒ xiān zǒule.)
I gotta / I go first

- 我要走了. (Wǒ yào zǒule.)
I gotta go. 

- 我走了. (Wǒ zǒule.
gotta go

- 走了啊! (Zǒule a!)
I'm leaving. 

- 我必須要走了.  (Wǒ bìxū yào zǒule.)
I have to go.

- 我颠了. (Wǒ diānle.)  - คำสแลงปักกิ่ง
I'm gonna bounce

ตัวอย่าง

好了我得走了.我的男朋友到了.(Hǎole wǒ dé zǒule wǒ de nán péngyǒu dàole.)
Okay, I have to go. My boyfriend is here.
โอเค ฉันต้องไป แฟนฉันมาแล้ว

没时间闲聊了 我得走了. (Méi shíjiān xiánliáole wǒ dé zǒule.)
No time for gabbing, I got to go.  
ไม่มีเวลาโม้แล้ว ฉันต้องไปแล้ว

抱歉 我得走了 时间要到了. (Bàoqiàn wǒ dé zǒule shíjiān yào dàole. )
I'm sorry, I have to go. It's almost time.
ขอโทษที่ฉันต้องไปแล้ว ใกล้ถึงเวลาแล้ว

两分钟肯定过了 我要走了. (Liǎng fēnzhōng kěndìngguòle wǒ yào zǒule.)
It's definitely been two minutes. I have to go.
สองนาที
แล้ว ฉันต้องไปแล้ว

现在我必须走了,他们要离开了. (Xiànzài wǒ bìxū zǒule, tāmen yào líkāile.)
Now I have to go. They're leaving already. 
ตอนนี้ฉันต้องไปแล้ว พวกเขากำลังไป 

我训练迟到了,我必须走了. (Wǒ xùnliàn chídàole, wǒ bìxū zǒule)
I'm late for training, I have to go.
ฉันไปอบรมสาย ฉันต้องไป  

在我发疯之前,我必须走了. (Zài wǒ fāfēng zhīqián, wǒ bìxū zǒule.)
I must go before I lose my mind. 
 
 ฉันต้องไปก่อนที่ฉันจะเสียสติ

对不起 我必须走了. 认识你真的很高兴. (Duìbùqǐ wǒ bìxū zǒule. Rènshí nǐ zhēn de hěn gāoxìng.)
Sorry, I have to go. It was really nice knowing you.
ขอโทษ ฉันต้องไปแล้ว ยินดีที่ได้รู้จัก

我必须走了 我妻子刚生完孩子. (Wǒ bìxū zǒule wǒ qīzi gāng shēng wán háizi.)
I have to go, my wife just gave birth.
ฉันต้องไปแล้ว เมียฉันเพิ่งคลอดลูก

Saturday, 26 November 2022

สำนวนอังกฤษที่ใช้บ่อย "the tip of the iceberg"


the tip of the iceberg (idiom) 
a problem or difficult situation that shows that a much more serious problem exists

"the tip of the iceberg" เป็นสำนวนที่แปลตรงตัวว่า "ปลายหรือยอดของภูเขาน้ำแข็ง" 

"tip" ก็คือส่วนภูเขาน้ำแข็งที่อยู่เหนือผิวน้ำและเราสามารถมองเห็นได้นั้นเองค่ะ 
"iceberg" 
ก็คือภูเขาน้ำแข็ง

สำนวนนี้ the tip of the iceberg เราจะใช้ในสถาณการณ์ที่เราพูดถึงหรือเห็นเเค่ส่วนเล็กๆแต่จริงๆปัญหามันใหญ่กว่าที่เราเห็นนั้นเองค่ะ เรามาดูตัวอย่างกันเลยค่ะ 

ตัวอย่าง
You have only seen the tip of the iceberg.
คุณได้เห็นเพียงส่วนยอดของภูเขาน้ำแข็ง 

Unfortunately This is not an isolated case, rather it is the tip of the iceberg.
น่าเสียดายที่นี่ไม่ใช่กรณีที่แยกได้ แต่เป็นเพียงยอดของภูเขาน้ำแข็ง (
เห็นเเค่ส่วนเล็กๆแต่จริงๆปัญหามันใหญ่กว่าที่เราเห็น

I believe we are looking at the tip of the iceberg.
ฉันเชื่อว่าเรากำลังมองไปที่ยอดภูเขาน้ำแข็ง (
มองไปส่วนเล็กๆแต่จริงๆปัญหามันใหญ่กว่านั้น)

I myself fear that this is only the tip of the iceberg against which the ship of the European Union is bound to shatter into pieces.
ตัวฉันเองกลัวว่านี่เป็นเพียงส่วนเล็ก ๆ ของภูเขาน้ำแข็งที่เรือของสหภาพยุโรปจะต้องแตกเป็นชิ้นๆ

These incidents, she says, are believed to be just the tip of the iceberg.
เธอกล่าวว่าเหตุการณ์เหล่านี้เชื่อว่าเป็นเพียงส่วนเล็ก ๆ ของภูเขาน้ำแข็ง

Therefore, only the tip of the iceberg is known and most of the reasons leading to the event are missed.
ดังนั้นจึงทราบเพียงส่วนยอดของภูเขาน้ำแข็งและเหตุผลส่วนใหญ่ที่นำไปสู่เหตุการณ์จึงพลาดไป

The news is shocking, but we may find out that the stories we've heard so far are just the tip of the iceberg.
ข่าวนี้น่าตกใจ แต่เราอาจพบว่าเรื่องราวที่เราได้ยินมาจนถึงตอนนี้เป็นเพียงยอดภูเขาน้ำแข็ง

These small local protests are just the tip of the iceberg.
การประท้วงในท้องถิ่นเล็กๆ เหล่านี้เป็นเพียงยอดภูเขาน้ำแข็ง (เเค่ส่วนเล็กๆแต่จริงๆปัญหามันใหญ่กว่า)

As with many injuries, the damage we can see is only the tip of the iceberg.
เช่นเดียวกับการบาดเจ็บจำนวนมาก ความเสียหายที่เราเห็นเป็นเพียงส่วนยอดของภูเขาน้ำแข็งเท่านั้น (เเค่ส่วนเล็กๆแต่จริงๆปัญหามันใหญ่กว่า)

As a market, we only see the tip of the iceberg in terms of possibilities.
เป็นตลาดที่เราจะเห็นเพียงยอดของภูเขาน้ำแข็งในแง่ของความเป็นไปได้ 

Her success is just the tip of the iceberg, she had to fight very hard to get to the position where she’s at, and we just didn’t see that.
ความสำเร็จของเธอเป็นเพียงยอดภูเขาน้ำแข็ง เธอต้องต่อสู้อย่างหนักเพื่อให้ได้มาซึ่งตำแหน่งที่เธออยู่ และเราก็ไม่เห็นสิ่งนั้น  

After the party, the messy kitchen was the tip of the iceberg. (the rest of the house was in a bigger mess.)
หลังงานปาร์ตี้ ห้องครัวที่ยุ่งเหยิงก็เป็นเพียงส่วนยอดของภูเขาน้ำแข็ง(ส่วนที่เหลือของบ้านเป็นระเบียบมากขึ้น)

What I am going through is just the tip of the iceberg, I have bigger issues to deal with.
สิ่งที่ฉันกำลังเจอเป็นเพียงยอดภูเขาน้ำแข็ง ฉันมีเรื่องใหญ่ที่ต้องจัดการ

The problems that we see today with global warming are just the tip of the iceberg. There are numerous disasters waiting to happen.

ปัญหาโลกร้อนที่ได้เห็นในวันนี้เป็นเพียงปลายของภูเขาน้ำแข็ง ยังมีหายนะอีกนานัปการรอให้เกิดขึ้น



Friday, 25 November 2022

"SOFT/FETT/NICE" สวีเดนแสลงที่ใช้บ่อยในชีวิตประจำวัน (Expressing “Awesome” in Swedish)


SOFT / FETT / NICE

SOFT / FETT / NICE คำคุณศัพท์นี้สามารถใช้ได้ในหลายๆ สถานการณ์ ใช้แทนคำว่า "bra" หรือ "trevligt " ที่แปลว่า "ดี" หรือ "เยี่ยม" นั้นเองค่ะ 

ถ้าเราถามใครก็ตามที่อายุต่ำกว่า 40 ปี - เกือบทุกครั้ง ชาวสวีเดนส่วณใหญ่จะใช้คำคุณศัพท์ภาษาอังกฤษว่า "nice" "cool" และ "soft" มากอย่างน่าประหลาดใจ ก็เลยใช้มาเป็นคำทับศัทพ์มาจากภาษาอังกฤษนั้นเองค่ะ

"Fett" ในภาษาสวีเดนจะแปลว่า "อ้วน" จะใช้เมื่อบางสิ่งนั้นยอดเยี่ยมจริงๆ หรือ 
“Awesome” ในภาษาอังกฤษ 

"Nice" ทำหน้าที่เป็นคำตอบทั่วไปสำหรับข้อความเชิงบวกใดๆหมายความว่า "ดีมาก" หรือ “Great/Good” ในภาษาอังกฤษ 

ตัวอย่าง

Jag ska till Paris nästa vecka.
I’m going to Paris next week.
ฉันจะไปปารีสในสัปดาห์หน้า


Gud va soft!
God, how nice!
พระเจ้าช่างดีเหลือเกิน!

A: Nice! Är det ett soft ställe?
A: Nice! Is it a cool place?
A: มันเป็นสถานที่เย็น?  

B: Ja, det är fett!
B: Yeah, it’s awesome!
B: ใช่ มันยอดเยี่ยมมาก!

Jag tog en öl med Carl på Berns igår.

I had a beer with Carl in the 
Berns yesterday.
ฉันดื่มเบียร์กับคาร์ลที่เบิร์นเมื่อวานนี้

乱七八糟 (luàn qī bā zāo) สำนวนที่พบบ่อยในซีรี่ย์และในหนังจีน



สำนวน 乱七八糟 (luàn qī bā zāo) เป็นคำคุณศัพท์ จะแปลว่า "ยุ่งเหยิง/รกรุงรัง/ไม่เป็นระเบียบ/เละเทะ" ในภาษาอังกฤษ "everything in disorder (idiom); in a hideous mess; at sixes and sevens"

ตัวอย่าง
他的办公桌总是乱七八糟的。(
Tā de bàngōng zhuō zǒng shì luànqībāzāo de.)
His desk is always in a mess.
โต๊ะทำงานของเขารกอยู่เสมอ

房间里乱七八糟。(Fángjiān lǐ luànqībāzāo.)
The room is in dreadful disorder.
ห้อง
รกรุงรังมาก

说到这种乱七八糟的关系,艾米丽怎么样了,萨米跟汤米的关系,很纠结
(Shuō dào zhè zhǒng luànqībāzāo de guānxì, ài mǐ lì zěnme yàngle, sà mǐ gēn tāng mǐ de guānxì, hěn jiūjié )
Speaking of that beautifully messed up relationship - howgreat is Emily (Bergl)? The scenes with Sammy and Tammi - it's sopainful, but they're my favorites.
พูดถึงความสัมพันธ์ที่ยุ่งเหยิงแบบนี้ เอมิลี่เป็นยังไงบ้าง ความสัมพันธ์ของแซมมี่กับทอมมี่ มันยุ่งเหยิงมาก 

家里现在乱七八糟。(
Jiālǐ xiànzài luànqībāzāo.)
Everything is at sixes and sevens in the house.
ทุกอย่างในบ้านเละเทะ

他看到一切都乱七八糟就勃然大怒。(
Tā kàn dào yīqiè dōu luànqībāzāo jiù bórán dà nù.)
He was beside himself with rage when he saw the mess.
เขาโกรธจัดเมื่อเห็นว่าทุกอย่างยุ่งเหยิงไปหมด

她要他清理好他弄得乱七八糟的东西。(Tā yào tā qīnglǐ hǎo tā nòng dé luànqībāzāo de dōngxī.)
She tell him to clear up the mess he have make.
เธอบอกให้เขาเคลียร์เรื่องยุ่งๆ ที่เขาก่อขึ้น


一连串的意外事件把店里弄得乱七八糟。(Yīliánchuàn de yìwài shìjiàn bǎ diàn lǐlòng dé luànqībāzāo.)
A series of accidents disordered the shop.
อุบัติเหตุหลายครั้งทำให้ร้านยุ่งเหยิง 

安娜,你的东西乱七八糟,收拾收拾房间。(Ānnà, nǐ de dōngxī luànqībāzāo, shōushí shōushí fángjiān.)
Anna, all your things are in a muddle, tidy up your room.
แอนนา ข้าวของของคุณรก ทำความสะอาดห้องด้วย

你的房间真是乱七八糟! (Nǐ de fángjiān zhēnshi luànqībāzāo!)
What a mess your room is!
ห้องของเธอ รกรุงรังจริงๆ! /ห้องเธอรกจริงๆ

他的房间乱七八糟的,我不得不整理一下. (Tā de fángjiān luànqībāzāo de, wǒ bùdé bù zhěnglǐ yīxià.)
ห้องของเขามีสภาพรกรุงรัง(ไม่เป็นระเบียบ)  ,  ฉันต้องจัดให้เป็นระเบียบสักหน่อย
His room is in a mess and I have to tidy it up.

这房间乱七八糟, 请收拾一下. (Zhè fángjiān luànqībāzāo, qǐng shōushí yīxià.)
This room is a mess, please tidy it up.
ห้องนี้รกรุงรัง , กรุณาเก็บกวาดหน่อยนะ

Monday, 21 November 2022

"ไม่แม้แต่นิดเดียว" ในภาษาอังกฤษพูดว่ายังไงน้า


มีหลายวิธีในการพูดว่า "ไม่แม้แต่นิดเดียว / ไม่เลยซักนิด" ในภาษาอังกฤษ อย่างเช่น

not a bit / not one bit
ถ้าเราอยากจะเน้นเราก็อาจจะเพิ่มว่า "a single" หรือ " a tiny bit"  ตัวอย่าง "not a single" "not a tiny bit"

หรือเราอาจจะใช้ not at all  / not even close /not in the least

***
not at all (ใช้กันอย่างแพร่หลายในหมู่คนบริทิชอังกฤษ)

ตัวอย่าง

You’re not a bit like your brother.
คุณไม่เหมือนพี่ชายของคุณเลยสักนิด 

I’m not in the least bit interested in whose fault it is.
ฉันไม่ได้สนใจแม้แต่น้อยว่ามันเป็นความผิดของใคร 

A: Are you dissatisfied with the results?
A: คุณไม่พอใจกับผลลัพธ์หรือไม่?
B: Not in the least.
B: ไม่เลยซักนิด

Well, you haven’t surprised me, not one bit.
คุณไม่ได้ทำให้ฉันประหลาดใจเลยสักนิด 

I'm not even a little bit good at English (so I am very bad at English).
ฉันไม่เก่งภาษาอังกฤษเลยแม้แต่น้อย

I'm not even a little bit excited (so I'm very unexcited).
ฉันไม่ตื่นเต้นแม้แต่น้อย 

She wasn't a bit worried about the test.
เธอไม่กังวลเกี่ยวกับการทดสอบเลยสักนิด

A: Are you getting tired?
A: เหนื่อยมั้ย
B: Not a bit.
B: ไม่เลยสักนิด

I wasn't one bit surprised at the news, to be honest. I don't regret leaving one bit.
ฉันไม่แปลกใจเลยสักนิดกับข่าวนี้ พูดตามตรง ฉันไม่เสียใจเลยที่จากไปแม้แต่นิดเดียว 

A: You're not upset about the party, are you?
A: คุณไม่อารมณ์เสียกับงานปาร์ตี้ใช่ไหม 
B: No, not a bit - don't worry.
B: ไม่ นิดหน่อย ไม่ต้องห่วง


Saturday, 19 November 2022

ขั้นตอนการขอใบอนุญาตพำนัก (UT Visa) สำหรับประเทศสวีเดน

Updated: 2025-01-01

หลายคนสงสัยว่าใบอนุญาตพำนัก (UT Visa) กับวีซ่าประเภท D ในสวีเดนเหมือนกันหรือไม่? วันนี้แอนจะมาอธิบายความแตกต่างและวิธีการขอใบอนุญาตพำนัก (UT Visa) ค่ะ

UT-Visa (ใบอนุญาตพำนัก) และ D-Visa (วีซ่าประเภท D) ในสวีเดนนั้นไม่เหมือนกัน ถึงแม้ว่าทั้งสองจะเกี่ยวข้องกับการอยู่ในประเทศสวีเดน แต่ก็มีความแตกต่างกันดังนี้:

  1. UT-Visa (Uppehållstillstånd - ใบอนุญาตพำนัก)
    คืออะไร:
    UT-Visa หรือใบอนุญาตพำนัก คือการอนุญาตให้อาศัยและอยู่ในสวีเดนในระยะยาว มักจะใช้ในกรณีที่ต้องการอยู่เกิน 90 วัน ซึ่งอาจเป็นใบอนุญาตชั่วคราวหรือถาวร

    ใช้เมื่อไหร่:

    • สำหรับการทำงานหรือเรียนในระยะยาว
    • การย้ายมาอยู่กับครอบครัว (กรณีรวมตัวครอบครัว)
    • สำหรับผู้ที่ขอลี้ภัยหรือต้องการการคุ้มครอง

    กระบวนการ:

    • ต้องยื่นคำร้องจากประเทศต้นทาง (เช่น ประเทศไทย) ก่อนเดินทางมาสวีเดน และเมื่อได้รับการอนุมัติแล้ว จะสามารถอยู่ในสวีเดนได้ตามระยะเวลาที่กำหนดในใบอนุญาต
  2. D-Visa (Nationellt Visum - วีซ่าประเภท D)
    คืออะไร:
    D-Visa หรือวีซ่าประเภท D เป็นวีซ่าระยะยาวที่อนุญาตให้พำนักในสวีเดนเกิน 90 วัน แต่ไม่เกิน 1 ปี โดยมักออกให้ในกรณีเฉพาะเจาะจง

    ใช้เมื่อไหร่:

    • สำหรับการเข้าร่วมโปรแกรมหรือคอร์สเรียนระยะสั้น
    • สำหรับผู้ที่รอการพิจารณาใบอนุญาตพำนักในสวีเดน
    • สำหรับวัตถุประสงค์เฉพาะ เช่น การทำงานชั่วคราวหรือโครงการพิเศษ

    กระบวนการ:

    • การยื่นขอ D-Visa จะต้องดำเนินการจากประเทศต้นทางเช่นกัน แต่ขั้นตอนอาจใช้เอกสารน้อยกว่าเมื่อเทียบกับ UT-Visa

สรุปความแตกต่าง:

  • UT-Visa (ใบอนุญาตพำนัก): ใช้สำหรับการอยู่อาศัยระยะยาว เช่น การทำงาน การเรียน หรือย้ายมาอยู่กับครอบครัว
  • D-Visa (วีซ่าประเภท D): ใช้สำหรับการอยู่อาศัยระยะสั้นที่เกิน 90 วัน แต่ไม่เกิน 1 ปี เช่น การเรียนคอร์สระยะสั้น หรือกรณีรอผลใบอนุญาตพำนัก

ที่นี้มาดูการขออนุญาตให้อยู่ (UT Visa) และประเภทของการอนุญาตให้อยู่ (UT Visa) รวมถึงวิธีการยื่นขออนุญาตกันค่ะ

ในสวีเดน UT Visa มีสองประเภทหลัก คือ UT (การอนุญาตให้อยู่ชั่วคราว) และ PUT (การอนุญาตให้อยู่ถาวร) ซึ่งอธิบายได้ดังนี้:

  1. UT (การอนุญาตให้อยู่ชั่วคราว):

    • เป็นการอนุญาตให้อยู่ในประเทศในระยะเวลาจำกัดที่ได้รับเมื่อมีเหตุผลเฉพาะในการอาศัยอยู่ในสวีเดน เช่น การทำงาน การศึกษา การเชื่อมต่อครอบครัว หรือการขอรับสิทธิในการลี้ภัย
    • UT มีระยะเวลาจำกัดและอาจต้องต่ออายุหากต้องการอยู่ต่อ
      ตัวอย่างของ TUT ได้แก่:
    • การอนุญาตให้อยู่ชั่วคราวเพื่อการทำงาน
    • การอนุญาตให้อยู่ชั่วคราวเพื่อการศึกษา
    • การอนุญาตให้อยู่ชั่วคราวเพื่อการเชื่อมต่อครอบครัว
    • การอนุญาตให้อยู่ชั่วคราวเพื่อการขอลี้ภัย
  2. PUT (การอนุญาตให้อยู่ถาวร):

    • เป็นการอนุญาตให้อยู่ในประเทศอย่างถาวร ซึ่งให้สิทธิในการอาศัยและทำงานในสวีเดนได้โดยไม่จำกัดเวลา
    • เพื่อที่จะได้รับ PUT คุณจะต้องมีการอนุญาตให้อยู่ชั่วคราว (UT) เป็นระยะเวลาหนึ่งและต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดบางประการ เช่น การสามารถเลี้ยงดูตัวเองได้ การปฏิบัติตามกฎหมายของสวีเดน และมีที่อยู่อาศัยที่มั่นคง
    • PUT ไม่ต้องต่ออายุ และคุณสามารถเดินทางในสหภาพยุโรปได้

สรุป:

  • UT คือการอนุญาตให้อยู่ชั่วคราว
  • PUT คือการอนุญาตให้อยู่ถาวร
  • คุณต้องมี TUT เป็นระยะเวลาหนึ่งก่อนที่จะสามารถยื่นขอ PUT ได้ค่ะ

ขั้นตอนการขอใบอนุญาตพำนัก (UT Visa) สำหรับคนไทยในปี 2025

นี่คือข้อมูลล่าสุด (ปี 2025) เกี่ยวกับการขอใบอนุญาตพำนัก (UT Visa) สำหรับคนไทยที่ต้องการเดินทางไปพำนักระยะยาวในสวีเดน:

  1. ตรวจสอบคุณสมบัติของคุณ
    คุณต้องยื่นขอใบอนุญาตพำนัก หากคุณวางแผนจะพำนักในสวีเดนเกิน 90 วัน โดยเหตุผลทั่วไปมีดังนี้:

    • การทำงาน: การจ้างงาน, ทำธุรกิจส่วนตัว, หรืออาชีพพิเศษ
    • การศึกษา: เรียนระดับมหาวิทยาลัยหรือโปรแกรมแลกเปลี่ยน
    • ครอบครัว: ย้ายไปอยู่กับคู่สมรส, คู่ชีวิตที่จดทะเบียน, หรือสมาชิกในครอบครัว
    • ลี้ภัย: ขอความคุ้มครองเนื่องจากเหตุผลด้านมนุษยธรรมหรือสถานะผู้ลี้ภัย
  2. วิธีการยื่นคำร้อง

    • การยื่นออนไลน์: วิธีที่สะดวกที่สุดคือการยื่นผ่านเว็บไซต์ของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองสวีเดน: https://www.migrationsverket.se
    • ยื่นด้วยตัวเอง: หากไม่สามารถยื่นออนไลน์ได้ คุณสามารถยื่นคำร้องที่สถานทูตสวีเดนในกรุงเทพฯ
      ที่อยู่: ชั้น 20 อาคารวันแปซิฟิคเพลส 140 ถนนสุขุมวิท กรุงเทพฯ
      เว็บไซต์: https://www.swedenabroad.se/bangkok
  3. เอกสารที่ต้องเตรียม

    • หนังสือเดินทางที่ยังไม่หมดอายุ
    • แบบฟอร์มคำร้อง (ตามประเภทของใบอนุญาต)
    • รูปถ่ายตามข้อกำหนดของสวีเดน
    • หลักฐานวัตถุประสงค์ (เช่น สัญญาจ้างงาน, หนังสือรับรองการเข้าเรียน, หรือเอกสารยืนยันความสัมพันธ์ในครอบครัว)
    • ประกันสุขภาพ (ถ้าจำเป็น)
  4. ค่าธรรมเนียมการสมัคร

    • ใบอนุญาตทำงาน: ประมาณ 2,000–2,300 โครนสวีเดน
    • ใบอนุญาตศึกษา: ประมาณ 1,500 โครนสวีเดน
    • การรวมตัวกับครอบครัว: ประมาณ 2,000 โครนสวีเดน
  5. เข้ารับการสแกนลายนิ้วมือและถ่ายรูป
    หลังจากยื่นคำร้องแล้ว คุณต้องไปที่สถานทูตเพื่อสแกนลายนิ้วมือและถ่ายรูปเพื่อทำบัตรใบอนุญาตพำนัก

  6. ระยะเวลาการพิจารณา
    ระยะเวลาการพิจารณาขึ้นอยู่กับประเภทคำร้อง

  7. รับผลการพิจารณา
    หากคำร้องได้รับการอนุมัติ คุณจะได้รับบัตรใบอนุญาตพำนัก

  8. เดินทางเข้าสวีเดน
    เมื่อได้รับบัตรใบอนุญาตพำนักแล้ว คุณสามารถเดินทางเข้าสวีเดนและเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้ทันที


หากคุณไม่แน่ใจว่าสถานการณ์ของคุณเหมาะกับวีซ่าประเภทใด สามารถตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของ Migrationsverket (สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองสวีเดน) เพื่อดูรายละเอียดที่เหมาะสมกับคุณค่ะ 😊

วีซ่าสวีเดนประเภท D - สำหรับการมาพำนักระยะยาวมากกว่า 90 วัน

วีซ่าสวีเดนประเภท D - สำหรับการมาพำนักระยะยาวมากกว่า 90 วัน แต่มากที่สุดหนึ่งปี

(Sweden Category D visa- for longer than 90 days)

วีซ่าสวีเดนประเภทนี้จะอนุญาตให้คุณพำนัก ทำงาน หรือเรียนในสวีเดนตามระยะเวลาที่มีผลบังคับใช้ มากกว่า 90 วันนั้นเองค่ะ มาดูกันค่ะว่าเราสามารถไปอยู่สวีเดนด้วยวีซ่าแบบไหนดได้บ้าง


ประเภทของ D วีซ่า (Sweden National Visa D Types):

  • Sweden Student Visa (วีซ่านักเรียน):  ออกให้กับพลเมืองของประเทศที่สามที่ต้องการลงทะเบียนเรียนในหลักสูตรการศึกษาที่สถาบันการศึกษาแห่งใดแห่งหนึ่งของสวีเดน การรับเข้า โปรแกรมการศึกษาที่ได้รับการยอมรับเป็นหนึ่งในข้อกำหนดหลักของการขอวีซ่านักเรียน

    More info: Student Visa

  • Sweden Employment Visa (วีซ่าจ้างงาน): .ออกให้แก่พลเมืองประเทศที่สามที่มีสิทธิ์ทำงานในสวีเดนภายใต้สัญญาจ้างงานอย่างเป็นทางการหรือข้อเสนอที่มีผลผูกพัน

    More info: Employment Visa

  • Sweden Job Seeker Visa (วีซ่าหางาน): สามารถใช้ได้กับผู้สำเร็จการศึกษาก่อนหน้านี้จากสถาบันในสวีเดนที่ต้องการต่ออายุการพำนักเพื่อหางาน

    More info: Job Seeker Visa

  • Sweden Family Reunion Visa (วีซ่าเยี่ยมครอบครัว): มอบให้กับพลเมืองของประเทศที่สามที่ต้องการไปเยี่ยมสมาชิกในครอบครัวชาวสวีเดนโดยผู้สมัครจะต้องแสดงความสัมพันธ์ของพวกเขากับสมาชิกในครอบครัวพร้อมกับเอกสารสำคัญอื่นๆ

    More info: Job Seeker Visa

  • Sweden Researcher Visa (วีซ่านักวิจัย): เป็นวีซ่าที่ออกให้แก่นักวิทยาศาสตร์รับเชิญหรือนักวิชาการเยือนจากประเทศที่สามที่ต้องการดำเนินกิจกรรมการวิจัยในมหาวิทยาลัยของสวีเดนหรือสถาบันวิจัยที่จัดตั้งขึ้นในกรณีนี้จะมีการขอจดหมายตอบรับจากองค์กรวิจัยพร้อมรายละเอียดของโครงการวิจัยในอนาคต

    More info: Researcher Visa

  • Sweden Freelancer Visa (วีซ่าสำหรับธุรกิจส่วนตัวหรือฟรีแลนซ์): ออกให้แก่บุคคลสัญชาติประเทศที่สามที่ต้องการย้ายไปสวีเดนเพื่อวัตถุประสงค์ในการจ้างงานตนเอง อย่างไรก็ตาม ผู้สมัครจะต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดบางประการ เช่น หลักฐานใบรับรองที่เกี่ยวข้องกับการระบุทรัพยากรที่จำเป็นเกี่ยวกับผู้ประกอบการ การค้า หรือช่างฝีมือ กิจกรรม ความพร้อมของทรัพยากรทางเศรษฐกิจที่เพียงพอเป็นสิ่งจำเป็น

    More info: Business Owner/ Freelancer Visa
    Apply for Business Owner/ Freelancer Visa

  • Sweden Language Course Visa (วีซ่าหลักสูตรภาษา): เป็นวีซ่าเพื่อการศึกษาสำหรับชาวต่างชาติที่ต้องการลงทะเบียนเรียนหลักสูตรภาษาสวีเดนเพื่อพำนักมากกว่า 90 วัน ต้องใช้จดหมายตอบรับเข้าเรียนเพื่อยื่นขอวีซ่าหลักสูตรภาษา

    More info: Language Course Visa
     
  • Sweden Student Internship Visa (วีซ่านักศึกษาฝึกงาน): ออกให้สำหรับพลเมืองประเทศที่สามที่ต้องการฝึกงานในสวีเดน จดหมายอนุมัติ / ข้อตกลงการฝึกอบรมจากนายจ้างที่คาดหวังของคุณจะรวมอยู่ในเอกสารที่จำเป็นสำหรับการสมัครของคุณ การฝึกงานเกิน 90 วันจะต้องขอใบอนุญาต

    More info: Internship Visa

  • Sweden Partnership Visa (วีซ่าแฟน คู่สมรส หรือวีซ่าแต่งงาน): คู่สมรสของพลเมืองสวีเดนที่ถือหนังสือเดินทางของประเทศตนเองซึ่งไม่ได้อยู่ในสหภาพยุโรปหรือเขตเศรษฐกิจยุโรปสามารถสมัคร Partnership Visa เพื่อมาสวีเดนได้ หลักฐานการเป็นพลเมืองสวีเดนของคู่สมรส ทะเบียนสมรส และประวัติครอบครัวอยู่ในเอกสารสำคัญที่คุณ ควรส่งระหว่างการสมัครของคุณ เขา/เธอ ต้องยื่นขอใบอนุญาตมีถิ่นที่อยู่สำหรับการพำนักถาวร (UT VISA) ด้วยค่ะ 

    *** ผู้สมัครจะต้องยื่นขอวีซ่าประเภทนี้ในขณะที่ผู้สมัครอยู่นอกประเทศสวีเดนค่ะ

    More info: Partnership Visa 

  • Sweden Work Permit Visa (วีซ่าทำงาน): สามารถรับได้โดยบุคคลสัญชาติประเทศที่สามซึ่งถือว่ามีสิทธิ์ทำงานในสวีเดน หนังสือรับรองการจ้างงานอย่างเป็นทางการเป็นหนึ่งในเอกสารที่จำเป็นสำหรับการขอวีซ่าทำงานของสวีเดน พลเมืองนอกสหภาพยุโรปที่มีใบอนุญาตทำงานมีสิทธิ์นำผู้ติดตามมาได้ด้วย รวมถึง เด็กอายุไม่เกิน 21 ปีค่ะ

    More info: Work Permit Visa
    More info: Permits for a family member of a person who has a work permit

  • Sweden Relative Visa (วีซ่าเยี่ยมครอบครัวญาติหรือเพื่อน): มีผลบังคับใช้กับญาตินอกสหภาพยุโรปของพลเมืองสวีเดนที่ต้องการไปเยี่ยมสมาชิกครอบครัวและเพื่อน 

    More info: Visiting a relative, friend or partner

ข้อกำหนดทั่วไปในการสมัครวีซ่าสวีเดน (General Requirements to Apply for Sweden Visa)

  1. A passport  (โดยมีหน้าว่างอย่างน้อยสองหน้าและมีอายุอย่างน้อย 90 วันหลังจากสิ้นสุดการเดินทาง สำเนาหน้าแรกรวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลและวีซ่าเชงเก้นก่อนหน้าหากได้รับ)
  2. Completed and signed visa application form (พร้อมรูปถ่ายไบโอเมตริกซ์ 2 ใบที่มีอายุไม่เกิน 6 เดือน)
  3. Proof of travel with confirmed both-way tickets. (หลักฐานการเดินทางพร้อมตั๋วไป-กลับ)
  4. Bank Statement (รายละเอียดบัญชีธนาคารหรือเอกสารของปัจจัยยังชีพที่เพียงพอซึ่งพิสูจน์ว่าผู้โดยสารสามารถจัดหาเงินทุนการเดินทางของเขา/เธอได้อย่างเพียงพอ)
  5. Proof of Occupation (หลักฐานการประกอบอาชีพในรูปแบบเอกสารรับรองทางจดหมายของนายจ้าง หนังสือรับรองการเป็นนักศึกษา เอกสารการขึ้นทะเบียนหรือสาธิตกองทุนบำเหน็จบำนาญ)
  6. Accommodation details (รายละเอียดที่พักผ่านจดหมายเชิญหรือหลักฐานการจองโรงแรมของคุณตลอดการเข้าพักในสวีเดน)
  7. Documentation of travel health insurance (เอกสารการประกันสุขภาพการเดินทางที่จะครอบคลุมถึง 30,000 ยูโรตลอดระยะเวลาการเดินทางและใช้ได้ภายในพื้นที่ Schengen ทั้งหมด)
  8. Documents demonstrating the applicant’s social and professional status (เอกสารแสดงสถานะทางสังคมและอาชีพของผู้สมัคร)

หมายเหต
  • คุณต้องยื่นขอวีซ่าก่อนเดินทางเข้าเขตเชงเก้น
  • คุณต้องสมัครก่อนเดินทางไม่เกินหกเดือน 
  • จุดหมายปลายทางสุดท้ายของการเดินทางของคุณจะเป็นตัวกำหนดว่าคุณควรยื่นขอวีซ่าที่สถานทูต Schengen แห่งใด (หากประเทศ Schengen อื่นนอกเหนือจากสวีเดนเป็นจุดหมายปลายทางสุดท้ายของคุณ คุณต้องยื่นขอวีซ่าที่สถานทูตของประเทศนั้น) 
  • วีซ่าเยี่ยมเยียนใช้ได้สำหรับการเยี่ยมชมเท่านั้นห้ามแอบทำงานนะคะ ถ้าเป็นกรณีพิเศษเท่านั้นที่คุณสามารถทำงานได้ในขณะที่คุณมีวีซ่าเยี่ยมเยียนนั้นเองค่ะ

Popular Post