Jag känner mig stressad. I feel stressed. ฉันรู้สึกเครียด
Jag upplever stress. I experience stress. ฉันรู้สึกเครียด *upplever หมายความว่า การประสบ, ประสบการณ์ หรือ experince ในภาษาอังกฤษ
ตัวอย่างเพิ่มเติม Du kan vara stressad utan att veta om det. You can be stressed without knowing it. เครียดได้โดยไม่รู้ตัว
Jag känner en tyngd över bröstet och känner mig hela tiden stressad. I feel a weight on my chest and feel stressed all the time. ฉันรู้สึกหนักอึ้งที่หน้าอกและรู้สึกเครียดตลอดเวลา
Jag är mycket stressad just nu. I'm under a lot of stress at the moment. ฉันมีความเครียดมากในขณะนี้
Hon känner sig jämt stressad. She feels stressed all the time. เธอรู้สึกเครียดอย่างต่อเนื่อง Vad kan jag göra om jag är stressad? What can I do if I'm stressed? ฉันจะทำอย่างไรถ้าฉันเครียด
råd för minskad stress Ways to reduce stress คำแนะนำในการลดความเครียด
Upplever gymnasieungdomar stress och hur hanterar de stress?
Do high school youth experience stress and how do they deal with stress? เด็ก ม.ปลาย ต้องเผชิญกับความเครียดหรือไม่ และพวกเขาจัดการกับความเครียดอย่างไร? Vad ska man göra när man är stressad? What to do when you are stressed? จะทำอย่างไรเมื่อคุณเครียด
Hur beter sig en stressad person? How does a stressed person behave? คนเครียดมีพฤติกรรมอย่างไร
När vi upplever stress så börjar amygdala i hjärnan att larma och väcka igång stresshormonerna. When we experience stress, the amygdala in the brain starts to alarm and trigger the stress hormones. เมื่อเราประสบกับความเครียด อะมิกดาลาในสมองจะเริ่มตื่นตัวและกระตุ้นฮอร์โมนความเครียด
คำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับความเครียด
Meditation
Meditation การทำสมาธิ
Medvetenhet Mindfulness การรับรู้สติ
Jag sover
I sleep ฉันกำลังนอนหลับ
Jag andas I breathe ฉันหายใจ
ett fokus focus โฟกัส, จุดสนใจ en självmedvetenhet self-awareness การตระหนักรู้ในตนเอง ett självprat self-talk การพูดกับตัวเอง หรือ self-talk คือ การสื่อสารภายในตนเองที่เกิดขึ้นกับมนุษย์ทุกคน โดยอาจจะพูดหรือไม่พูดออกมาก็ได้ en Inlevelseförmåga empathy ความเข้าอกเข้าใจ
ตัวอย่าง I think I will try one of those. (I just decided this right now) ฉันคิดว่าฉันจะลองหนึ่งในนั้น (ฉันเพิ่งตัดสินใจตอนนี้)
I will buy one for you. ฉันจะซื้อให้คุณ (เพิ่งตัดสินใจตอนนี้)
2. เราสามารถใช้ WILL เมื่อเราคิดหรือเชื่ออะไรบางอย่างเกี่ยวกับอนาคต (การทำนาย)
ตัวอย่าง
I think Thailand will win the game.
My team will not win the league this season.
I think it will rain later so take an umbrella with you.
Note: เราสามารถใช้ทั้ง Will และ Going to เพื่อทำนายอนาคตนั้นเองค่ะ
Future Predictions
As you can see, both Will and Going to can be used for making future predictions without having a real difference in meaning.
The weather report says it will rain tomorrow. (Correct)
The weather report says it is going to rain tomorrow. (Correct)
3 เราสามารถใช้ WILL เมื่อพูดถึงความจริงในอนาคต
ตัวอย่าง
The sun will rise tomorrow. พรุ่งนี้พระอาทิตย์จะขึ้น
Jane will be five years old next month. เจนจะอายุครบห้าขวบในเดือนหน้า
4. เราสามารถใช้ WILL ก็ต่อเมื่อเราจะต้อง ให้คำเสนอ(make an offer) คำสัญญา(make promise) หรือ คำขู่ (or make threat)
ตัวอย่าง
I will kill you. ฉันจะฆ่าคุณ I will give you a 50 percent discount if you buy it right now.
ฉันจะให้ส่วนลด 50 เปอร์เซ็นต์ถ้าคุณซื้อตอนนี้ I promise I will behave next time.
ฉันสัญญาว่าฉันจะประพฤติตัวในครั้งต่อไป I will take you to Paris if you'd like.
ฉันจะพาคุณไปปารีสถ้าคุณต้องการ
5. เราสามารถใช้ WILL NOT หรือ WON'Tเมื่อมีคนปฏิเสธที่จะทำบางสิ่งหรือบางอย่างมันไม่ทำงาน
ตัวอย่าง
I told him to take out the garbage but he won't do it. ฉันบอกให้เขาเอาขยะไปทิ้ง แต่เขาก็ไม่ทำ My kids won't listen to anything I say. ลูก ๆ ของฉันจะไม่ฟังสิ่งที่ฉันพูด My car won't start. รถของฉันสตาร์ทไม่ติด I won't promise. ฉันจะไม่สัญญา
เมื่อไหร่ใช้ BE GOING TO
1. เราสามารถใช้ BE GOING TO เมื่อเราตัดสินใจแล้วหรือตั้งใจจะทำอะไรในอนาคต (แผนเดิม - Prior Plan)
ตัวอย่าง
I'm going to accept the job offer. ฉันจะยอมรับข้อเสนองาน
I’m going to visit my parents next month. ฉันจะไปเยี่ยมพ่อแม่เดือนหน้า I’m going to get married next year. ฉันจะแต่งงานในปีหน้า I'm going to retire to the beach - in fact I have already bought a little beach house. ฉันจะเกษียณที่ชายหาด อันที่จริงฉันได้ซื้อบ้านริมชายหาดหลังเล็กๆ ไว้แล้ว
2. เราสามารถใช้ BE GOING TO เมื่อมีสัญญาณบ่งบอกว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้นจริงๆ (หลักฐาน - Evidence, Sign )
ตัวอย่าง I think I'm going to throw up. ฉันคิดว่าฉันกำลังจะอาเจียน I don't feel well. I think I am going to be sick. ฉันรู้สึกไม่ค่อยสบาย ฉันคิดว่าฉันกำลังจะป่วย I think it is going to rain - I just felt a drop. ฉันคิดว่าฝนกำลังจะตก - ฉันเพิ่งรู้สึกว่ามีหยด
3. เราสามารถใช้ BE GOING TO เมื่อบางสิ่งกำลังจะเกิดขึ้น (when something is about to happen)
ตัวอย่าง
The bomb is going to explode. ระเบิดกำลังจะระเบิด
I'm going to throw up. ฉันกำลังจะอาเจียน
เปรียบเทียบ Will vs. Going To
ถ้ามีคนถามเราว่า: Are you busy this evening? ( เย็นนี้คุณยุ่งไหม)
ถ้าเราตอบว่า: Yes, I'm going to go to the movies. (ใช่ ฉันจะไปดูหนัง)
2. Black and Blue Meaning: when you are hurt emotionally or have physical bruises
ตัวอย่าง His arm was black and blue. แขนของเขาเป็นสีดำและสีน้ำเงิน
After falling off his bicycle when he was speeding downhill, He was black and blue for nearly two weeks. หลังจากเขาตกจากจักรยานตอนที่เขากำลังเร่งความเร็วลงเนิน เขาฟกช้ำดำเขียวอยู่เกือบสองสัปดาห์
3. Blue Blood
Meaning: we can use this expression when we refer to aristocrats (people perhaps from a wealthy background or from a monarchy
4. Blue Collar
Meaning:Blue-collar workers do work needing strength or physical skill rather than office work.
Blue Collar คือคนทำงานที่ไม่ได้ทำในออฟฟิต คนงาน คนใช้แรงงานต่างๆ ซึ่ง คำว่า Blue ก็จะหมายถึงเสื้อสีฟ้า สีน้ำเงิน ที่พวกช่างตามโรงงาน ใส่กันนั้นเอง
Blue Collar จะตรงกันข้ามกับคำว่า White Collar
White Collar
Meaning: relating to people who work in offices, doing work that needs mental rather than physical effort:
White Collar คือ คนที่ทำงานในออฟฟิต พนักงานตามออฟฟิต มนุษย์เงินเดือน หรือผู้บริหาร ว่ากันง่ายๆเลยคืองานในห้องแอร์ ซึ่ง คำว่า White ที่แปลว่าสีขาวนั้นมาจากสีเสื้อที่พนักงานออฟฟิต มนุษย์เงินเดือนทั้งหลายส่วนใหญ่จะใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวกัน
5. Into The Blue
Meaning: to disappear; to be out of sight.
ตัวอย่าง I have no idea where your books went, they seem to have disappeared into the blue.
6. Out Of The Blue
Meaning: If something happens out of the blue, it is completely unexpected
She called me out of the blue. เธอโทรหาฉันโดยไม่คาดคิด
7. Once In A Blue Moon
Meaning: If something happens out of the blue, it is completely unexpected: One day, out of the blue, she announced that she was leaving.
ตัวอย่าง
She only comes home once in a blue moon now that she lives so far away. เธอกลับบ้านเพียงครั้งเดียวในพระจันทร์สีน้ำเงิน ตอนนี้เธออยู่ไกลมาก
My boyfriend lives in Sweden, I often get to see him once in a blue moon.
I prefer eating healthy food these days so I only have a piece of cake once in a blue moon. หลาย ๆ วันนี้ฉันชอบกินอาหารสุขภาพมากกว่า ดังนั้นฉันจะกินเค้กสักชิ้นเป็นไปได้ยากมาก
8. To Feel Blue
Meaning: to be depressed; to feel sad. ตัวอย่าง
Since my boyfriend left me I've been feeling blue, I don't want to go out. ตั้งแต่แฟนทิ้งฉันไป ฉันรู้สึกเศร้าใจ ฉันไม่อยากออกไปไหนเลย
Don't feel blue. Life is short, have some fun! อย่ารู้สึกเศร้าเลย ชีวิตมันสั้น ทำตัวให้สนุก!
I was really feeling blue after he told me he was leaving.
9. Until You are blue In The Face Meaning: If you say or shout something until you are blue in the face, you are wasting your efforts because you will get no results:
ตัวอย่าง
I was blue in the face trying to explain my position but the director simply wouldn't listen to other ideas. ฉันหน้าซีดเผือดพยายามอธิบายจุดยืนของฉันแต่ผู้กำกับก็ไม่ฟังความคิดคนอื่นเลย Go ahead and yell until you're blue in the face but I'm not going to change my mind. เดินหน้าต่อไปและตะโกนจนกว่าคุณไม่มีอะไรจะพูด แต่ฉันจะไม่เปลี่ยนใจ
สำนวนนี้ "ana ugglor i mossen" แปลตรงตัวก็คือ "มีนกฮูกในบึงนี่" สำนวนนี้จะมีความหมายเหมือน "Det ligger en hund begraven här/ Här ligger en hund begraven." ค่ะ ถ้าเปรียบในภาษาอังกฤษคือ "smell a rat" นั้นเองค่ะ