Friday, 25 November 2022

"SOFT/FETT/NICE" สวีเดนแสลงที่ใช้บ่อยในชีวิตประจำวัน (Expressing “Awesome” in Swedish)


SOFT / FETT / NICE

SOFT / FETT / NICE คำคุณศัพท์นี้สามารถใช้ได้ในหลายๆ สถานการณ์ ใช้แทนคำว่า "bra" หรือ "trevligt " ที่แปลว่า "ดี" หรือ "เยี่ยม" นั้นเองค่ะ 

ถ้าเราถามใครก็ตามที่อายุต่ำกว่า 40 ปี - เกือบทุกครั้ง ชาวสวีเดนส่วณใหญ่จะใช้คำคุณศัพท์ภาษาอังกฤษว่า "nice" "cool" และ "soft" มากอย่างน่าประหลาดใจ ก็เลยใช้มาเป็นคำทับศัทพ์มาจากภาษาอังกฤษนั้นเองค่ะ

"Fett" ในภาษาสวีเดนจะแปลว่า "อ้วน" จะใช้เมื่อบางสิ่งนั้นยอดเยี่ยมจริงๆ หรือ 
“Awesome” ในภาษาอังกฤษ 

"Nice" ทำหน้าที่เป็นคำตอบทั่วไปสำหรับข้อความเชิงบวกใดๆหมายความว่า "ดีมาก" หรือ “Great/Good” ในภาษาอังกฤษ 

ตัวอย่าง

Jag ska till Paris nästa vecka.
I’m going to Paris next week.
ฉันจะไปปารีสในสัปดาห์หน้า


Gud va soft!
God, how nice!
พระเจ้าช่างดีเหลือเกิน!

A: Nice! Är det ett soft ställe?
A: Nice! Is it a cool place?
A: มันเป็นสถานที่เย็น?  

B: Ja, det är fett!
B: Yeah, it’s awesome!
B: ใช่ มันยอดเยี่ยมมาก!

Jag tog en öl med Carl på Berns igår.

I had a beer with Carl in the 
Berns yesterday.
ฉันดื่มเบียร์กับคาร์ลที่เบิร์นเมื่อวานนี้

乱七八糟 (luàn qī bā zāo) สำนวนที่พบบ่อยในซีรี่ย์และในหนังจีน



สำนวน 乱七八糟 (luàn qī bā zāo) เป็นคำคุณศัพท์ จะแปลว่า "ยุ่งเหยิง/รกรุงรัง/ไม่เป็นระเบียบ/เละเทะ" ในภาษาอังกฤษ "everything in disorder (idiom); in a hideous mess; at sixes and sevens"

ตัวอย่าง
他的办公桌总是乱七八糟的。(
Tā de bàngōng zhuō zǒng shì luànqībāzāo de.)
His desk is always in a mess.
โต๊ะทำงานของเขารกอยู่เสมอ

房间里乱七八糟。(Fángjiān lǐ luànqībāzāo.)
The room is in dreadful disorder.
ห้อง
รกรุงรังมาก

说到这种乱七八糟的关系,艾米丽怎么样了,萨米跟汤米的关系,很纠结
(Shuō dào zhè zhǒng luànqībāzāo de guānxì, ài mǐ lì zěnme yàngle, sà mǐ gēn tāng mǐ de guānxì, hěn jiūjié )
Speaking of that beautifully messed up relationship - howgreat is Emily (Bergl)? The scenes with Sammy and Tammi - it's sopainful, but they're my favorites.
พูดถึงความสัมพันธ์ที่ยุ่งเหยิงแบบนี้ เอมิลี่เป็นยังไงบ้าง ความสัมพันธ์ของแซมมี่กับทอมมี่ มันยุ่งเหยิงมาก 

家里现在乱七八糟。(
Jiālǐ xiànzài luànqībāzāo.)
Everything is at sixes and sevens in the house.
ทุกอย่างในบ้านเละเทะ

他看到一切都乱七八糟就勃然大怒。(
Tā kàn dào yīqiè dōu luànqībāzāo jiù bórán dà nù.)
He was beside himself with rage when he saw the mess.
เขาโกรธจัดเมื่อเห็นว่าทุกอย่างยุ่งเหยิงไปหมด

她要他清理好他弄得乱七八糟的东西。(Tā yào tā qīnglǐ hǎo tā nòng dé luànqībāzāo de dōngxī.)
She tell him to clear up the mess he have make.
เธอบอกให้เขาเคลียร์เรื่องยุ่งๆ ที่เขาก่อขึ้น


一连串的意外事件把店里弄得乱七八糟。(Yīliánchuàn de yìwài shìjiàn bǎ diàn lǐlòng dé luànqībāzāo.)
A series of accidents disordered the shop.
อุบัติเหตุหลายครั้งทำให้ร้านยุ่งเหยิง 

安娜,你的东西乱七八糟,收拾收拾房间。(Ānnà, nǐ de dōngxī luànqībāzāo, shōushí shōushí fángjiān.)
Anna, all your things are in a muddle, tidy up your room.
แอนนา ข้าวของของคุณรก ทำความสะอาดห้องด้วย

你的房间真是乱七八糟! (Nǐ de fángjiān zhēnshi luànqībāzāo!)
What a mess your room is!
ห้องของเธอ รกรุงรังจริงๆ! /ห้องเธอรกจริงๆ

他的房间乱七八糟的,我不得不整理一下. (Tā de fángjiān luànqībāzāo de, wǒ bùdé bù zhěnglǐ yīxià.)
ห้องของเขามีสภาพรกรุงรัง(ไม่เป็นระเบียบ)  ,  ฉันต้องจัดให้เป็นระเบียบสักหน่อย
His room is in a mess and I have to tidy it up.

这房间乱七八糟, 请收拾一下. (Zhè fángjiān luànqībāzāo, qǐng shōushí yīxià.)
This room is a mess, please tidy it up.
ห้องนี้รกรุงรัง , กรุณาเก็บกวาดหน่อยนะ

Monday, 21 November 2022

"ไม่แม้แต่นิดเดียว" ในภาษาอังกฤษพูดว่ายังไงน้า


มีหลายวิธีในการพูดว่า "ไม่แม้แต่นิดเดียว / ไม่เลยซักนิด" ในภาษาอังกฤษ อย่างเช่น

not a bit / not one bit
ถ้าเราอยากจะเน้นเราก็อาจจะเพิ่มว่า "a single" หรือ " a tiny bit"  ตัวอย่าง "not a single" "not a tiny bit"

หรือเราอาจจะใช้ not at all  / not even close /not in the least

***
not at all (ใช้กันอย่างแพร่หลายในหมู่คนบริทิชอังกฤษ)

ตัวอย่าง

You’re not a bit like your brother.
คุณไม่เหมือนพี่ชายของคุณเลยสักนิด 

I’m not in the least bit interested in whose fault it is.
ฉันไม่ได้สนใจแม้แต่น้อยว่ามันเป็นความผิดของใคร 

A: Are you dissatisfied with the results?
A: คุณไม่พอใจกับผลลัพธ์หรือไม่?
B: Not in the least.
B: ไม่เลยซักนิด

Well, you haven’t surprised me, not one bit.
คุณไม่ได้ทำให้ฉันประหลาดใจเลยสักนิด 

I'm not even a little bit good at English (so I am very bad at English).
ฉันไม่เก่งภาษาอังกฤษเลยแม้แต่น้อย

I'm not even a little bit excited (so I'm very unexcited).
ฉันไม่ตื่นเต้นแม้แต่น้อย 

She wasn't a bit worried about the test.
เธอไม่กังวลเกี่ยวกับการทดสอบเลยสักนิด

A: Are you getting tired?
A: เหนื่อยมั้ย
B: Not a bit.
B: ไม่เลยสักนิด

I wasn't one bit surprised at the news, to be honest. I don't regret leaving one bit.
ฉันไม่แปลกใจเลยสักนิดกับข่าวนี้ พูดตามตรง ฉันไม่เสียใจเลยที่จากไปแม้แต่นิดเดียว 

A: You're not upset about the party, are you?
A: คุณไม่อารมณ์เสียกับงานปาร์ตี้ใช่ไหม 
B: No, not a bit - don't worry.
B: ไม่ นิดหน่อย ไม่ต้องห่วง


Saturday, 19 November 2022

ขั้นตอนการขอใบอนุญาตพำนัก (UT Visa) สำหรับประเทศสวีเดน

Updated: 2025-01-01

หลายคนสงสัยว่าใบอนุญาตพำนัก (UT Visa) กับวีซ่าประเภท D ในสวีเดนเหมือนกันหรือไม่? วันนี้แอนจะมาอธิบายความแตกต่างและวิธีการขอใบอนุญาตพำนัก (UT Visa) ค่ะ

UT-Visa (ใบอนุญาตพำนัก) และ D-Visa (วีซ่าประเภท D) ในสวีเดนนั้นไม่เหมือนกัน ถึงแม้ว่าทั้งสองจะเกี่ยวข้องกับการอยู่ในประเทศสวีเดน แต่ก็มีความแตกต่างกันดังนี้:

  1. UT-Visa (Uppehållstillstånd - ใบอนุญาตพำนัก)
    คืออะไร:
    UT-Visa หรือใบอนุญาตพำนัก คือการอนุญาตให้อาศัยและอยู่ในสวีเดนในระยะยาว มักจะใช้ในกรณีที่ต้องการอยู่เกิน 90 วัน ซึ่งอาจเป็นใบอนุญาตชั่วคราวหรือถาวร

    ใช้เมื่อไหร่:

    • สำหรับการทำงานหรือเรียนในระยะยาว
    • การย้ายมาอยู่กับครอบครัว (กรณีรวมตัวครอบครัว)
    • สำหรับผู้ที่ขอลี้ภัยหรือต้องการการคุ้มครอง

    กระบวนการ:

    • ต้องยื่นคำร้องจากประเทศต้นทาง (เช่น ประเทศไทย) ก่อนเดินทางมาสวีเดน และเมื่อได้รับการอนุมัติแล้ว จะสามารถอยู่ในสวีเดนได้ตามระยะเวลาที่กำหนดในใบอนุญาต
  2. D-Visa (Nationellt Visum - วีซ่าประเภท D)
    คืออะไร:
    D-Visa หรือวีซ่าประเภท D เป็นวีซ่าระยะยาวที่อนุญาตให้พำนักในสวีเดนเกิน 90 วัน แต่ไม่เกิน 1 ปี โดยมักออกให้ในกรณีเฉพาะเจาะจง

    ใช้เมื่อไหร่:

    • สำหรับการเข้าร่วมโปรแกรมหรือคอร์สเรียนระยะสั้น
    • สำหรับผู้ที่รอการพิจารณาใบอนุญาตพำนักในสวีเดน
    • สำหรับวัตถุประสงค์เฉพาะ เช่น การทำงานชั่วคราวหรือโครงการพิเศษ

    กระบวนการ:

    • การยื่นขอ D-Visa จะต้องดำเนินการจากประเทศต้นทางเช่นกัน แต่ขั้นตอนอาจใช้เอกสารน้อยกว่าเมื่อเทียบกับ UT-Visa

สรุปความแตกต่าง:

  • UT-Visa (ใบอนุญาตพำนัก): ใช้สำหรับการอยู่อาศัยระยะยาว เช่น การทำงาน การเรียน หรือย้ายมาอยู่กับครอบครัว
  • D-Visa (วีซ่าประเภท D): ใช้สำหรับการอยู่อาศัยระยะสั้นที่เกิน 90 วัน แต่ไม่เกิน 1 ปี เช่น การเรียนคอร์สระยะสั้น หรือกรณีรอผลใบอนุญาตพำนัก

ที่นี้มาดูการขออนุญาตให้อยู่ (UT Visa) และประเภทของการอนุญาตให้อยู่ (UT Visa) รวมถึงวิธีการยื่นขออนุญาตกันค่ะ

ในสวีเดน UT Visa มีสองประเภทหลัก คือ UT (การอนุญาตให้อยู่ชั่วคราว) และ PUT (การอนุญาตให้อยู่ถาวร) ซึ่งอธิบายได้ดังนี้:

  1. UT (การอนุญาตให้อยู่ชั่วคราว):

    • เป็นการอนุญาตให้อยู่ในประเทศในระยะเวลาจำกัดที่ได้รับเมื่อมีเหตุผลเฉพาะในการอาศัยอยู่ในสวีเดน เช่น การทำงาน การศึกษา การเชื่อมต่อครอบครัว หรือการขอรับสิทธิในการลี้ภัย
    • UT มีระยะเวลาจำกัดและอาจต้องต่ออายุหากต้องการอยู่ต่อ
      ตัวอย่างของ TUT ได้แก่:
    • การอนุญาตให้อยู่ชั่วคราวเพื่อการทำงาน
    • การอนุญาตให้อยู่ชั่วคราวเพื่อการศึกษา
    • การอนุญาตให้อยู่ชั่วคราวเพื่อการเชื่อมต่อครอบครัว
    • การอนุญาตให้อยู่ชั่วคราวเพื่อการขอลี้ภัย
  2. PUT (การอนุญาตให้อยู่ถาวร):

    • เป็นการอนุญาตให้อยู่ในประเทศอย่างถาวร ซึ่งให้สิทธิในการอาศัยและทำงานในสวีเดนได้โดยไม่จำกัดเวลา
    • เพื่อที่จะได้รับ PUT คุณจะต้องมีการอนุญาตให้อยู่ชั่วคราว (UT) เป็นระยะเวลาหนึ่งและต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดบางประการ เช่น การสามารถเลี้ยงดูตัวเองได้ การปฏิบัติตามกฎหมายของสวีเดน และมีที่อยู่อาศัยที่มั่นคง
    • PUT ไม่ต้องต่ออายุ และคุณสามารถเดินทางในสหภาพยุโรปได้

สรุป:

  • UT คือการอนุญาตให้อยู่ชั่วคราว
  • PUT คือการอนุญาตให้อยู่ถาวร
  • คุณต้องมี TUT เป็นระยะเวลาหนึ่งก่อนที่จะสามารถยื่นขอ PUT ได้ค่ะ

ขั้นตอนการขอใบอนุญาตพำนัก (UT Visa) สำหรับคนไทยในปี 2025

นี่คือข้อมูลล่าสุด (ปี 2025) เกี่ยวกับการขอใบอนุญาตพำนัก (UT Visa) สำหรับคนไทยที่ต้องการเดินทางไปพำนักระยะยาวในสวีเดน:

  1. ตรวจสอบคุณสมบัติของคุณ
    คุณต้องยื่นขอใบอนุญาตพำนัก หากคุณวางแผนจะพำนักในสวีเดนเกิน 90 วัน โดยเหตุผลทั่วไปมีดังนี้:

    • การทำงาน: การจ้างงาน, ทำธุรกิจส่วนตัว, หรืออาชีพพิเศษ
    • การศึกษา: เรียนระดับมหาวิทยาลัยหรือโปรแกรมแลกเปลี่ยน
    • ครอบครัว: ย้ายไปอยู่กับคู่สมรส, คู่ชีวิตที่จดทะเบียน, หรือสมาชิกในครอบครัว
    • ลี้ภัย: ขอความคุ้มครองเนื่องจากเหตุผลด้านมนุษยธรรมหรือสถานะผู้ลี้ภัย
  2. วิธีการยื่นคำร้อง

    • การยื่นออนไลน์: วิธีที่สะดวกที่สุดคือการยื่นผ่านเว็บไซต์ของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองสวีเดน: https://www.migrationsverket.se
    • ยื่นด้วยตัวเอง: หากไม่สามารถยื่นออนไลน์ได้ คุณสามารถยื่นคำร้องที่สถานทูตสวีเดนในกรุงเทพฯ
      ที่อยู่: ชั้น 20 อาคารวันแปซิฟิคเพลส 140 ถนนสุขุมวิท กรุงเทพฯ
      เว็บไซต์: https://www.swedenabroad.se/bangkok
  3. เอกสารที่ต้องเตรียม

    • หนังสือเดินทางที่ยังไม่หมดอายุ
    • แบบฟอร์มคำร้อง (ตามประเภทของใบอนุญาต)
    • รูปถ่ายตามข้อกำหนดของสวีเดน
    • หลักฐานวัตถุประสงค์ (เช่น สัญญาจ้างงาน, หนังสือรับรองการเข้าเรียน, หรือเอกสารยืนยันความสัมพันธ์ในครอบครัว)
    • ประกันสุขภาพ (ถ้าจำเป็น)
  4. ค่าธรรมเนียมการสมัคร

    • ใบอนุญาตทำงาน: ประมาณ 2,000–2,300 โครนสวีเดน
    • ใบอนุญาตศึกษา: ประมาณ 1,500 โครนสวีเดน
    • การรวมตัวกับครอบครัว: ประมาณ 2,000 โครนสวีเดน
  5. เข้ารับการสแกนลายนิ้วมือและถ่ายรูป
    หลังจากยื่นคำร้องแล้ว คุณต้องไปที่สถานทูตเพื่อสแกนลายนิ้วมือและถ่ายรูปเพื่อทำบัตรใบอนุญาตพำนัก

  6. ระยะเวลาการพิจารณา
    ระยะเวลาการพิจารณาขึ้นอยู่กับประเภทคำร้อง

  7. รับผลการพิจารณา
    หากคำร้องได้รับการอนุมัติ คุณจะได้รับบัตรใบอนุญาตพำนัก

  8. เดินทางเข้าสวีเดน
    เมื่อได้รับบัตรใบอนุญาตพำนักแล้ว คุณสามารถเดินทางเข้าสวีเดนและเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้ทันที


หากคุณไม่แน่ใจว่าสถานการณ์ของคุณเหมาะกับวีซ่าประเภทใด สามารถตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของ Migrationsverket (สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองสวีเดน) เพื่อดูรายละเอียดที่เหมาะสมกับคุณค่ะ 😊

วีซ่าสวีเดนประเภท D - สำหรับการมาพำนักระยะยาวมากกว่า 90 วัน

วีซ่าสวีเดนประเภท D - สำหรับการมาพำนักระยะยาวมากกว่า 90 วัน แต่มากที่สุดหนึ่งปี

(Sweden Category D visa- for longer than 90 days)

วีซ่าสวีเดนประเภทนี้จะอนุญาตให้คุณพำนัก ทำงาน หรือเรียนในสวีเดนตามระยะเวลาที่มีผลบังคับใช้ มากกว่า 90 วันนั้นเองค่ะ มาดูกันค่ะว่าเราสามารถไปอยู่สวีเดนด้วยวีซ่าแบบไหนดได้บ้าง


ประเภทของ D วีซ่า (Sweden National Visa D Types):

  • Sweden Student Visa (วีซ่านักเรียน):  ออกให้กับพลเมืองของประเทศที่สามที่ต้องการลงทะเบียนเรียนในหลักสูตรการศึกษาที่สถาบันการศึกษาแห่งใดแห่งหนึ่งของสวีเดน การรับเข้า โปรแกรมการศึกษาที่ได้รับการยอมรับเป็นหนึ่งในข้อกำหนดหลักของการขอวีซ่านักเรียน

    More info: Student Visa

  • Sweden Employment Visa (วีซ่าจ้างงาน): .ออกให้แก่พลเมืองประเทศที่สามที่มีสิทธิ์ทำงานในสวีเดนภายใต้สัญญาจ้างงานอย่างเป็นทางการหรือข้อเสนอที่มีผลผูกพัน

    More info: Employment Visa

  • Sweden Job Seeker Visa (วีซ่าหางาน): สามารถใช้ได้กับผู้สำเร็จการศึกษาก่อนหน้านี้จากสถาบันในสวีเดนที่ต้องการต่ออายุการพำนักเพื่อหางาน

    More info: Job Seeker Visa

  • Sweden Family Reunion Visa (วีซ่าเยี่ยมครอบครัว): มอบให้กับพลเมืองของประเทศที่สามที่ต้องการไปเยี่ยมสมาชิกในครอบครัวชาวสวีเดนโดยผู้สมัครจะต้องแสดงความสัมพันธ์ของพวกเขากับสมาชิกในครอบครัวพร้อมกับเอกสารสำคัญอื่นๆ

    More info: Job Seeker Visa

  • Sweden Researcher Visa (วีซ่านักวิจัย): เป็นวีซ่าที่ออกให้แก่นักวิทยาศาสตร์รับเชิญหรือนักวิชาการเยือนจากประเทศที่สามที่ต้องการดำเนินกิจกรรมการวิจัยในมหาวิทยาลัยของสวีเดนหรือสถาบันวิจัยที่จัดตั้งขึ้นในกรณีนี้จะมีการขอจดหมายตอบรับจากองค์กรวิจัยพร้อมรายละเอียดของโครงการวิจัยในอนาคต

    More info: Researcher Visa

  • Sweden Freelancer Visa (วีซ่าสำหรับธุรกิจส่วนตัวหรือฟรีแลนซ์): ออกให้แก่บุคคลสัญชาติประเทศที่สามที่ต้องการย้ายไปสวีเดนเพื่อวัตถุประสงค์ในการจ้างงานตนเอง อย่างไรก็ตาม ผู้สมัครจะต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดบางประการ เช่น หลักฐานใบรับรองที่เกี่ยวข้องกับการระบุทรัพยากรที่จำเป็นเกี่ยวกับผู้ประกอบการ การค้า หรือช่างฝีมือ กิจกรรม ความพร้อมของทรัพยากรทางเศรษฐกิจที่เพียงพอเป็นสิ่งจำเป็น

    More info: Business Owner/ Freelancer Visa
    Apply for Business Owner/ Freelancer Visa

  • Sweden Language Course Visa (วีซ่าหลักสูตรภาษา): เป็นวีซ่าเพื่อการศึกษาสำหรับชาวต่างชาติที่ต้องการลงทะเบียนเรียนหลักสูตรภาษาสวีเดนเพื่อพำนักมากกว่า 90 วัน ต้องใช้จดหมายตอบรับเข้าเรียนเพื่อยื่นขอวีซ่าหลักสูตรภาษา

    More info: Language Course Visa
     
  • Sweden Student Internship Visa (วีซ่านักศึกษาฝึกงาน): ออกให้สำหรับพลเมืองประเทศที่สามที่ต้องการฝึกงานในสวีเดน จดหมายอนุมัติ / ข้อตกลงการฝึกอบรมจากนายจ้างที่คาดหวังของคุณจะรวมอยู่ในเอกสารที่จำเป็นสำหรับการสมัครของคุณ การฝึกงานเกิน 90 วันจะต้องขอใบอนุญาต

    More info: Internship Visa

  • Sweden Partnership Visa (วีซ่าแฟน คู่สมรส หรือวีซ่าแต่งงาน): คู่สมรสของพลเมืองสวีเดนที่ถือหนังสือเดินทางของประเทศตนเองซึ่งไม่ได้อยู่ในสหภาพยุโรปหรือเขตเศรษฐกิจยุโรปสามารถสมัคร Partnership Visa เพื่อมาสวีเดนได้ หลักฐานการเป็นพลเมืองสวีเดนของคู่สมรส ทะเบียนสมรส และประวัติครอบครัวอยู่ในเอกสารสำคัญที่คุณ ควรส่งระหว่างการสมัครของคุณ เขา/เธอ ต้องยื่นขอใบอนุญาตมีถิ่นที่อยู่สำหรับการพำนักถาวร (UT VISA) ด้วยค่ะ 

    *** ผู้สมัครจะต้องยื่นขอวีซ่าประเภทนี้ในขณะที่ผู้สมัครอยู่นอกประเทศสวีเดนค่ะ

    More info: Partnership Visa 

  • Sweden Work Permit Visa (วีซ่าทำงาน): สามารถรับได้โดยบุคคลสัญชาติประเทศที่สามซึ่งถือว่ามีสิทธิ์ทำงานในสวีเดน หนังสือรับรองการจ้างงานอย่างเป็นทางการเป็นหนึ่งในเอกสารที่จำเป็นสำหรับการขอวีซ่าทำงานของสวีเดน พลเมืองนอกสหภาพยุโรปที่มีใบอนุญาตทำงานมีสิทธิ์นำผู้ติดตามมาได้ด้วย รวมถึง เด็กอายุไม่เกิน 21 ปีค่ะ

    More info: Work Permit Visa
    More info: Permits for a family member of a person who has a work permit

  • Sweden Relative Visa (วีซ่าเยี่ยมครอบครัวญาติหรือเพื่อน): มีผลบังคับใช้กับญาตินอกสหภาพยุโรปของพลเมืองสวีเดนที่ต้องการไปเยี่ยมสมาชิกครอบครัวและเพื่อน 

    More info: Visiting a relative, friend or partner

ข้อกำหนดทั่วไปในการสมัครวีซ่าสวีเดน (General Requirements to Apply for Sweden Visa)

  1. A passport  (โดยมีหน้าว่างอย่างน้อยสองหน้าและมีอายุอย่างน้อย 90 วันหลังจากสิ้นสุดการเดินทาง สำเนาหน้าแรกรวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลและวีซ่าเชงเก้นก่อนหน้าหากได้รับ)
  2. Completed and signed visa application form (พร้อมรูปถ่ายไบโอเมตริกซ์ 2 ใบที่มีอายุไม่เกิน 6 เดือน)
  3. Proof of travel with confirmed both-way tickets. (หลักฐานการเดินทางพร้อมตั๋วไป-กลับ)
  4. Bank Statement (รายละเอียดบัญชีธนาคารหรือเอกสารของปัจจัยยังชีพที่เพียงพอซึ่งพิสูจน์ว่าผู้โดยสารสามารถจัดหาเงินทุนการเดินทางของเขา/เธอได้อย่างเพียงพอ)
  5. Proof of Occupation (หลักฐานการประกอบอาชีพในรูปแบบเอกสารรับรองทางจดหมายของนายจ้าง หนังสือรับรองการเป็นนักศึกษา เอกสารการขึ้นทะเบียนหรือสาธิตกองทุนบำเหน็จบำนาญ)
  6. Accommodation details (รายละเอียดที่พักผ่านจดหมายเชิญหรือหลักฐานการจองโรงแรมของคุณตลอดการเข้าพักในสวีเดน)
  7. Documentation of travel health insurance (เอกสารการประกันสุขภาพการเดินทางที่จะครอบคลุมถึง 30,000 ยูโรตลอดระยะเวลาการเดินทางและใช้ได้ภายในพื้นที่ Schengen ทั้งหมด)
  8. Documents demonstrating the applicant’s social and professional status (เอกสารแสดงสถานะทางสังคมและอาชีพของผู้สมัคร)

หมายเหต
  • คุณต้องยื่นขอวีซ่าก่อนเดินทางเข้าเขตเชงเก้น
  • คุณต้องสมัครก่อนเดินทางไม่เกินหกเดือน 
  • จุดหมายปลายทางสุดท้ายของการเดินทางของคุณจะเป็นตัวกำหนดว่าคุณควรยื่นขอวีซ่าที่สถานทูต Schengen แห่งใด (หากประเทศ Schengen อื่นนอกเหนือจากสวีเดนเป็นจุดหมายปลายทางสุดท้ายของคุณ คุณต้องยื่นขอวีซ่าที่สถานทูตของประเทศนั้น) 
  • วีซ่าเยี่ยมเยียนใช้ได้สำหรับการเยี่ยมชมเท่านั้นห้ามแอบทำงานนะคะ ถ้าเป็นกรณีพิเศษเท่านั้นที่คุณสามารถทำงานได้ในขณะที่คุณมีวีซ่าเยี่ยมเยียนนั้นเองค่ะ

Thursday, 17 November 2022

"ไม่เลยสักนิดเลย" ในภาษาจีนพูดยังไงน้า "一点儿也不 (yīdiǎn er yě bù )" กับ "一点儿都不 (yīdiǎn er dōu bù)"


บางครั้งเราอาจจะต้องการพูดว่า "ไม่แม้แต่นิดเดียว" ในภาษาจีน ตัวอย่างเช่น  ฉันไม่หิวเลยไม่แม้แต่นิดเดียว 

ในภาษาจีนเราจะใช้วลีที่ว่า "一点儿也不 (yīdiǎn er yě bù )" กับ "一点儿都不 (yīdiǎn er dōu bù)" ทั้งสองวลีนี้ใช้เหมือนกันคือใช้บอกความรู้สึกว่านิดเดียวก็ไม่นั้นเองค่ะ หรือ "not even a little" หรือ "not at all" เป็นภาษาอังกฤษ มี 2 ​​วิธีในการใช้วลีเหล่านี้:

1. ใช้กับคำคุณศัพท์ 
2. ใช้กับกริยา

1. โครงสร้างของประโยคแบบเเรก
 (ใช้กับคำคุณศัพท์)

Subj. + 一点(儿) + 也 / 都 + 不 + Adj.

一点儿也不可爱 (yīdiǎnryěbùkěaì)
not cute at all
นิดเดียวก็ไม่น่ารัก

那个问题一点儿也不难 。 (Nàge wèntí yīdiǎnr yě bù nán)
That question isn't difficult at all.
คำถามนั้นไม่ยากเลย

我觉得汉语一点儿也不难。(
Wǒ juédé hànyǔ yīdiǎn er yě bù nán)
I think Chinese is not difficult at all.
ฉันคิดว่าภาษาจีนไม่ยากเลย


 这个菜一点都不好吃。 (Zhège cài yīdiǎn dōu bù hǎochī)
This dish isn't tasty at all. 
จานนี้ไม่อร่อยเลย 

我的男朋友一点都不幽默 。 (Wǒ de nán péngyǒu yīdiǎn dōu bù yōumò.)
My boyfriend is not humorous not even a little bit.
แฟนฉันไม่ตลกเลยสักนิด

这个笑话一点儿也不好笑。 (Zhège xiàohua yīdiǎn yě bù hǎoxiào)
This joke isn't funny at all.
เรื่องตลกนี้ไม่ตลกเลยแม้แต่น้อย 

你一点也不性感。 (Nǐ yīdiǎn yě bù xìnggǎn)
You're not even a little bit sexy. 
คุณไม่เซ็กซี่เลยแม้แต่นิดเดียว


2. โครงสร้างของประโยคแบบที่สอง (ใช้กับคำกริยา)


Subj. + 一点(儿) + 也 / 都 + 不 + Verb/Phrasal verb

一点儿都不知道  (Yīdiǎn er dōu bù zhīdào)
don't know at all
นิดเดียวก็ไม่รู้

他一点也不喜欢啤酒。(
Tā yīdiǎn yě bù xǐhuān píjiǔ.)
He doesn't like beer even a little bit.
เขาไม่ชอบเบียร์แม้แต่นิดเดียว

他一点儿也不喜欢咖啡。(
Tā yīdiǎn er yě bù xǐhuān kāfēi)
He doesn't like coffee at all. 
เขาไม่ชอบกาแฟเลยแม้แต่นิดเดียว

我一点也不喜欢 奶酪 。 (Wǒ yīdiǎn yě bù xǐhuan nǎilào)

I don't like cheese even a little bit.
ฉันไม่ชอบชีสแม้แต่นิดเดียว

你一点也不会说吗 ? (Nǐ yīdiǎn yě bù huì shuō ma?)
Can't you even speak even a little bit?
คุณพูดไม่ได้แม้แต่นิดเดียว?

她一点都不知道这件事 。(Tā yīdiǎn dōu bù zhīdào zhè jiàn shì)
She doesn't know about this at all.
เธอไม่รู้เรื่องนี้แม้แต่นิดเดียว

我一点都不爱玩游戏 。 (Wǒ yīdiǎn dōu bù ài wán yóuxì)
I don't like to play games not even a little bit.  
ฉันไม่ชอบเล่นเกมเลยแม้แต่น้อย



Tuesday, 15 November 2022

นึกไม่ออก "มันติดอยู่ที่ปาก" สำนวนภาษาอังกฤษพูดว่ายังไงน้า


on the tip of (one's) tongue (idiom)
If something that you want to say is on the tip of your tongue, you think you know it and that you will be able to remember it very soon:

คำว่า "tip" แปลว่า "ปลาย" แล คำว่า "tongue" แปลว่า "ลิ้น"  เพราะฉะนั้นสำนวนที่ว่า on the tip of one's tongue หมายถึง ติดอยู่ที่ปลายลิ้น  ถ้าเป็นคำไทยก็คือ ติดอยู่ที่ปาก นั่นเอง  

ตัวอย่าง

The address for the Thai restaurant is on the tip of my tongue.
ที่อยู่ของร้านอาหารไทยติดอยู่ที่ปากของฉัน 

A:Do you know that guy fro my office that I was telling you about?
A: คุณรู้จักผู้ชายในที่ทำงานที่ฉันเล่าให้ฟังไหม? 
B: I know who you are talking about...his name is on the tip of my tongue.
B: ฉันรู้ว่าคุณกำลังพูดถึงใคร...ชื่อของเขาติดอยู่ที่ปากของฉัน 

A:Who are you here to see?
A: คุณมาหาใคร? 
B:I'm sorry their name is on the tip of my tongue.
B: ฉันขอโทษที่มีชื่อของพวกเขาติดอยู่ที่ปากของฉัน 

The name of the website is on the tip of my tongue.

ชื่อเว็บไซต์อยู่ที่ปลายลิ้นของฉัน

The words are on the tip of my tongue, but I don’t quite know how to put what I want to say.
คำพูดติดอยู่ที่ปลายลิ้นของฉัน แต่ฉันไม่รู้ว่าควรจะพูดอย่างไรดี

I know her - her name is
on the tip of my tongue, but it won't come to me.
ฉันรู้จักเธอ - ชื่อของเธออยู่ที่ปลายลิ้นของฉัน แต่จะไม่มาหาฉัน 

Her name is on the tip of my tongue. Just give me a minute, I'll remember it. 
ชื่อของเธออยู่ที่ปลายลิ้นของฉัน ขอเวลาสักนิด ฉันว่าน่าจะจำมันได้นะ

I had the answer on the tip of my tongue, but couldn't think of it in time.
ฉันมีคำตอบอยู่ที่ปลายลิ้นแต่คิดไม่ทัน

I have met her many times, but her name is just on the tip of my tongue.
ฉันเจอผู้หญิงคนนี้หลายครั้งแล้ว แต่ดันนึกชื่อเธอไม่ออกเสียได้ 

It won’t take me much time to remember, her name is on the tip of my tongue.
ฉันใช้เวลาไม่นานในการจำ ชื่อของเธอติดอยู่ที่ปลายลิ้นของฉัน ขอเวลาฉันสักครู่ 

Just give me a minute – his birth date is on the tip of my tongue.
วันเกิดของเขาอยู่ที่ปลายลิ้นของฉัน 

I can’t exactly remember the title of the book, but it is on the tip of my tongue.
ฉันจำชื่อหนังสือไม่ได้ แต่ติดอยู่ที่ปลายลิ้นของฉัน 

There was a question on the tip of his tongue, but he was unable to ask it.
มีคำถามอยู่ที่ปลายลิ้นของเขา แต่เขาไม่สามารถถามได้ 

Anne was badly annoyed by the behaviour of the staff, terrible comments were on the tip of her tongue.
แอนน์รู้สึกรำคาญอย่างมากกับพฤติกรรมของพนักงาน ความคิดเห็นแย่ๆ อยู่ที่ปลายลิ้นของเธอ 

Mike looked up at me with questions on the tip of his tongue.
ไมค์เงยหน้าขึ้นมองฉันด้วยคำถามติดปลายลิ้น


Popular Post