Tuesday, 4 October 2022

"莫名其妙 (mò míng qí miào)" คำว่า "แปลกจัง" หรือ "งงๆ" สำนวนที่พบบ่อยในซีรี่ย์และในนิยายจีน



莫名其妙 (mò míng qí miào) - HSK6 IDIOM

สำนวนนี้ 
莫名其妙 (mò míng qí miào) จะหมายความว่า 

  • ความลึกลับที่ไม่อาจหยั่งรู้ได้ (สำนวน) unfathomable mystery (idiom) 
  • ประหลาดใจ ละเอียดอ่อนและไม่สามารถอธิบายได้  inexplicably; subtle and ineffable 
  • จับต้นชนปลายไม่ได้ unable to make head or tail of it 
莫 (mò)
do not; there is none who;
อย่า; ไม่มีผู้ใด;

名 (míng)
name; noun (part of speech) place (e.g. among winners); famous; classifier for people;
ชื่อ; คำนาม (ส่วนหนึ่งของคำพูด) สถานที่ (เช่น ท่ามกลางผู้ชนะ); มีชื่อเสียง; ลักษณนามสำหรับคน;

其 (qí)
his; her; its; their; that; such; it (refers to sth preceding it);
เขา; ของเธอ; ของมัน; ของพวกเขา; นั่น; เช่น; มัน (หมายถึง "บางอย่าง/บางสิ่ง" ก่อนหน้านั้น)

妙 (miào)
clever; wonderful
ฉลาด; มหัศจรรย์

ตัวอย่าง
安娜是一个莫名其妙的人! (
Ānnà shì yīgè mòmíngqímiào de rén!)
Anne is such a weird person.
แอนนาเป็นคนแปลก(แบบลึกลับ!)

你就说 莫名其妙 的 红了。(Nǐ jiù shuō mòmíngqímiào de hóngle.)
you said, [you] suddenly became popular
คุณพูดว่า [คุณ] อยู่ดีดีก็ดังขึ้นมา

他一声不吭就走了,真叫人莫名其妙。(Tā yīshēng bù kēng jiù zǒule, zhēn jiào rén mòmíngqímiào.)
She went away without saying a word, which was quite inexplicable.
เธอจากไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ ซึ่งค่อนข้างงง (อธิบายไม่ถูก)

就这样 莫名奇妙地爱上你! (jiù zhè yàng mò míng qí miào de ài shàng nǐ)
So inexplicably in love with you!
ก็หลงรักเธอไปโดยไม่รู้ตัว

我突然产生了一阵莫名其妙的犯罪感和恐惧心。(Wǒ tūrán chǎnshēngle yīzhèn mòmíngqímiào de fànzuì gǎn hé kǒngjù xīn.)
I suddenly felt a strange sense of guilt and fear.
อยู่ดีดีๆฉันก็เกิดความรู้สึกผิดเเละความกลัวขึ้นอย่างประหลาดใจ

我感到莫名其妙,她怎么竟然做出这样的事。(Wǒ gǎndào mòmíngqímiào, tā zěnme jìngrán zuò chū zhèyàng de shì.)
It beats me how she can have done it.
ฉันไม่เข้าใจเลยว่าเธอทำอย่างนั้นได้อย่างไร

之后很长的一段时间,我总是莫名其妙地觉得自己很愚蠢,因为我喜欢上了他不喜欢的音乐流派。(Zhīhòu hěn zhǎng de yīduàn shíjiān, wǒ zǒng shì mòmíngqímiào de juédé zìjǐ hěn yúchǔn, yīnwèi wǒ xǐhuān shàngle tā bù xǐhuān de yīnyuè liúpài.)
And for a long time afterwards, I always felt somehow stupid simply because I liked a genre of music he didn' t.
และหลังจากนั้นเป็นเวลานาน ฉันรู้สึกงี่เง่าเพียงเพราะว่าฉันชอบแนวเพลงที่เขาไม่ชอบ

车祸过后他感到一种莫名其妙的后怕。(Chēhuò guòhòu tā gǎndào yī zhǒng mòmíngqímiào de hòupà)
He has such a panic fear after the traffic accident.
เขามีความกลัวตื่นตระหนก (แบบอธิบายไม่ได้) หลังจากเกิดอุบัติเหตุทางจราจร

不少人莫名其妙地看着他,也许在奇怪,不明白他为什么要自找苦吃。(Bù shǎo rén mòmíngqímiào de kànzhe tā, yěxǔ zài qíguài, bù míngbái tā wèishéme yào zì zhǎo kǔ chī.)
Some looked at him quizzically, perhaps wondering why he had inflicted such suffering on himself.
หลายคนมองเขาอย่างไม่เข้าใจ (แบบงงๆ) และสงสัย ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงเอาความเเจ็บปวดมาให้ตัวเอง

哎呀 ! 怎么感觉肚子莫名其妙的饿了
 (Āiyā! zěnme gǎnjué dùzi mòmíngqímiào de è'le)
Damn!  Don't know why I feel strangely hungry.
เอ๋! ไม่รู้ทำไมรู้สึกหิวแปลกๆ


Sunday, 2 October 2022

ประเทศจีนมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า ??? - 中华人民共和国



Flag of China


เพื่อนเพื่อนทราบไม่ค่ะว่าชื่อเต็มของประเทศจีนในภาษาจีนเรียกว่าอะไร คำถามนี้เคยออกในคำถามด้วยนะคะ มาดูกันเลยค่ะ

คนส่วนใหญ่มักจะรู้จักประเทศจีนในนาม  中国 (Zhōng guó) แต่ประเทศจีนมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า "สาธารณรัฐประชาชนจีน" หรือในภาษาจีนคือ 中华人民共和国 (Zhōnghuá rénmín gònghéguó) และภาษาอังกฤษ People's Republic of China (PRC)

ประเทศจีนเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลกมากกว่า 1,400 ล้านคน เป็นรัฐพรรคการเมืองเดียวปกครองโดยพรรคคอมมิวนิสต์จีน (中国共产党 Zhōngguó gòngchǎndǎngมาดูข้อมูลพื้นฐานของประเทศจีนกันค่ะ
  • เมืองหลวง(首都): กรุงปักกิ่ง (北京市)
  • ประเทศจีนครอบคลุม 5 โซนเวลา (中国总共跨五个时区 )
  • สกุลเงินจีน: เหรินหมินปี้ (人民币) RMB  
  • หน่วยเงินตรา:หยวน (元) 
    *1 หยวน แบ่งเป็น 10 เจี่ยว (角 jiǎo ), 1 เจียว แบ่งเป็น 10 เฟิน (分; fēn) ในภาษาจีนกลางมักเรียก "หยวน (元")ว่า "ไคว่" (块 kuài) และเรียก "角(jiǎo)" ว่า "เหมา" (毛máo)
  • รหัสพื้นที่สำหรับประเทศจีนคือ +86 (中国区号是+86)
  • ตามเขตเวลา เวลาระหว่างไทยและจีนต่างกัน 1 ชั่วโมง คือ จีนเร็วกว่าประเทศไทย 1 ชั่วโมง (按区时来算,泰国与中国的时差是一个小时,也就是中国比泰国快一个小时)
  • ประเทศจีนมี 4 สี่ ฤดูกาลสลับกันของปี 3 เดือนต่อฤดูกาล (一年中交替出现的四个季节,每季三个月。)
    มีนาคมถึงพฤษภาคมเป็นฤดูใบไม้ผลิ (一般以3至5月为春季) 
    มิถุนายนถึงสิงหาคมเป็นฤดูร้อน  (一般6至8月为夏季)
    กันยายนถึงพฤศจิกายนเป็นฤดูใบไม้ร่วง(一般9至11月为秋季) 
    ธันวาคมถึงกุมภาพันธ์เป็นฤดูหนาว (12月到次年2月为冬季)
  • มีพรมแดนทางบกของจีนมีความยาว 22,800 กิโลเมตร และมีพรมแดนติดกับ 14 ประเทศ ได้แก่ เกาหลีเหนือ มองโกเลีย รัสเซีย คาซัคสถาน คีร์กีซสถาน ทาจิกิสถาน อัฟกานิสถาน ปากีสถาน อินเดีย เนปาล ภูฏาน เมียนมาร์ ลาว และเวียดนาม (中国陆地边界长达2.28万公里,与朝鲜、蒙古、俄罗斯、哈萨克斯坦、吉尔吉斯斯坦、塔吉克斯坦、阿富汗、巴基斯坦、印度、尼泊尔、不丹、缅甸、老挝、越南14个国家接壤。)
  • ประเทศจีนมีเขตการปกครองระดับจังหวัดทั้งหมด 34 แห่ง ได้แก่ 23 มณฑล 5 เขตปกครองตนเอง 4 เขตเทศบาลโดยตรงภายใต้รัฐบาลกลางและ 2 เขตบริหารพิเศษ (中国共计34个省级行政区,包括23个省、5个自治区、4个直辖市、2个特别行政区。)

    23 มณฑล ได้แก่ (23个省分别为)
    เหอเป่ย์ 河北省
    ซานซี 山西省
    เหลียวหนิง 辽宁省
    จี๋หลิน 吉林省
    เฮยหลงเจียง 黑龙江省
    เจียงซู 江苏省
    เจ้อเจียง 浙江省
    อานฮุย 安徽省
    ฝูเจี้ยน 福建省
    เจียงซี 江西省
    ซานตง 山东省
    เหอหนาน 河南省
    หูเป่ย์ 湖北省
    หูหนาน 湖南省
    กวางตุ้ง 广东省
    ไห่หนาน 海南省
    เสฉวน 四川省
    กุ้ยโจว 贵州省
    ยูนนาน 云南省
    ส่านซี 陕西省
    กานซู่ 甘肃省
    ชิงไห่ 青海省
    ไต้หวัน 台湾省

    เขตปกครองตนเอง 5 เขต ได้แก่ (5个自治区分别为)

    เขตปกครองตนเองมองโกเลียใน 内蒙古自治区
    เขตปกครองตนเองกวางสีจ้วง 广西壮族自治区
    เขตปกครองตนเองทิเบต 西藏自治区
    เขตปกครองตนเองหนิงเซี่ยหุย 宁夏回族自治区
    เขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ 新疆维吾尔自治区。

    เทศบาล 4 แห่งที่อยู่ภายใต้รัฐบาลกลางโดยตรง ได้แก่ (4个直辖市分别为)
    ปักกิ่ง 北京市
    เทียนจิน 天津市
    เซี่ยงไฮ้ง上海市
    ฉงชิ่ง 重庆市

    เขตบริหารพิเศษสองเขตคือ (2个特别行政区分别为)
    เขตบริหารพิเศษฮ่องกง 香港特别行政区
    เขตบริหารพิเศษมาเก๊า 澳门特别行政区


Photo: https://zhuanlan.zhihu.com


Friday, 30 September 2022

ประเทศสแกนดิเนเวียและนอร์ดิกต่างกันอย่างไร (Nordic vs. Scandinavian)




ภูมิภาคนอร์ดิกประกอบด้วยเดนมาร์ก นอร์เวย์ สวีเดน ฟินแลนด์ และไอซ์แลนด์ เช่นเดียวกับหมู่เกาะแฟโร กรีนแลนด์ และโอลันด์ มาดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับภูมิภาคนอร์ดิกและแต่ละประเทศกันเลยค่ะ
  • ประเทศเดนมาร์ก  (Denmark)
  • ประเทศฟินแลนด์  (Finland)
  • ประเทศไอซ์แลนด์  (Iceland)
  • ประเทศนอร์เวย์  (Norway)
  • ประเทศสวีเดน (Sweden)
  • เขตปกครองตนเองของหมู่เกาะแฟโรและกรีนแลนด์เป็นส่วนหนึ่งของเดนมาร์ก (Faroe Island and Greenland)
  • เขตปกครองตนเองของโอลันด์เป็นส่วนหนึ่งของฟินแลนด์ (Åland)


ประเทศในสแกนดิเนเวีย (Scandinavian Countries) ประกอบด้วย 3 ประเทศ 
  • ประเทศเดนมาร์ก  (Denmark)
  • ประเทศนอร์เวย์  (Norway)
  • ประเทศสวีเดน (Sweden)
ประเทศเดนมาร์ก (Denmark)





เดนมาร์กเป็นระบอบรัฐธรรมนูญที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข สมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธอที่ 2 ไม่มีอำนาจทางการเมืองที่แท้จริง และรัฐสภา Folketinget เป็นอำนาจสูงสุดของประเทศ เดนมาร์กเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรป แต่ยังคงใช้เงินโครนเป็นสกุลเงิน เป็นสมาชิกของ NATO ด้วย
ภาษาราชการ: ภาษาเดนมาร์ก
GDP ต่อหัว: 40,400 ยูโร PPS (2019)
สกุลเงิน: เดนมาร์กโครน (DKK)
ประชากร (2022):  Approx. 5,840,045
ด้วยประชากรประมาณ 5.8 ล้านคน เดนมาร์กจึงเป็นประเทศที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดในภูมิภาคนอร์ดิก ผู้คนประมาณ 1.3 ล้านคนอาศัยอยู่ในและรอบ ๆ เมืองหลวงโคเปนเฮเกน

ประเทศสวีเดน (Sweden)


ประเทศที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคนอร์ดิกก็เป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดเช่นกัน สำหรับหลายๆ คน สวีเดนมีความหมายเหมือนกันกับการผลิตรถยนต์ เหล็กและเหล็กกล้าคุณภาพสูง
สวีเดนเป็นระบอบรัฐธรรมนูญที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข กษัตริย์คาร์ลที่ 16 กุสตาฟไม่มีอำนาจทางการเมืองที่แท้จริง และรัฐสภาคือริกสดาเกนเป็นอำนาจสูงสุดของประเทศ สวีเดนเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรป แต่ยังคงใช้โครนาเป็นสกุลเงิน เป็นสมาชิกของ NATO 5 กรกฎาคม 2022
ภาษาราชการ: ภาษาสวีเดน (ภาษาชนกลุ่มน้อยประจำชาติ: ฟินแลนด์, มีนเคียลี (Meänkieli), ซามี (Sami), โรมานี (Romani) และ ยิดดิช (Yiddish) 
GDP ต่อหัว: €38,200 (2020)
สกุลเงิน: สวีเดนคราวน์ (SEK)
ประชากร (2022):  10,379,295
สวีเดนมีประชากรมากที่สุดในภูมิภาคนอร์ดิกที่ 10.3 ล้านคน เกือบ 2.4 ล้านคนอาศัยอยู่ในและรอบ ๆ เมืองหลวงสตอกโฮล์ม (Stockholm) ทางตอนเหนือของประเทศมีประชากรเบาบางมาก

ประเทศฟินแลนด์ (Finland)




ฟินแลนด์เป็นสาธารณรัฐ ประธานาธิบดีที่ได้รับการเลือกตั้งโดยตรงมีอำนาจเหนือการต่างประเทศ นโยบายของสหภาพยุโรป และการตัดสินใจทางทหารที่สำคัญ ในด้านอื่น ๆ รัฐสภาเป็นอำนาจสูงสุด ฟินแลนด์เป็นสมาชิกของสหภาพยุโรปและใช้เงินยูโรเป็นสกุลเงิน  เป็นสมาชิกของ NATO 5 กรกฎาคม 2022
ภาษาราชการ: ภาษาฟินแลนด์
GDP ต่อหัว: €35,100 (2020)
สกุลเงิน: ยูโร
ประชากร (2022):  5.525,292
ฟินแลนด์มีประชากรไม่ถึง 5.5 ล้านคน โดยประมาณ 1.1 ล้านคนอาศัยอยู่ในและรอบเมืองหลวงเฮลซิงกิ (Helsinki)

ประเทศนอร์เวย์ (Norway)

นอร์เวย์เป็นระบอบรัฐธรรมนูญที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข กษัตริย์ฮารัลด์ที่ 5 ไม่มีอำนาจทางการเมืองที่แท้จริง และรัฐสภา สตอร์ททิงเก็ทเป็นผู้มีอำนาจสูงสุด แม้ว่าจะไม่ได้อยู่ในสหภาพยุโรป แต่นอร์เวย์ก็เป็นส่วนหนึ่งของเขตเศรษฐกิจยุโรปและเป็นสมาชิกของ NATO
ภาษาราชการ: ภาษานอร์เวย์
GDP ต่อหัว: €45,700 (2020)
สกุลเงิน: โครนนอร์เวย์ (NOK)
ประชากร (2022):  5,367,580
นอร์เวย์มีประชากรน้อยกว่าเดนมาร์กเล็กน้อย และแผ่กระจายไปทั่วพื้นที่ที่ใหญ่กว่ามาก ตั้งแต่ลินเดสเนสทางตอนใต้ไปจนถึงเมืองคีร์เคเนสทางตอนเหนือ ผู้คนประมาณ 1.2 ล้านคนอาศัยอยู่ในและรอบ ๆ เมืองหลวงออสโล (Oslo)

ประเทศไอซ์แลนด์ (Iceland)



ไอซ์แลนด์เป็นสาธารณรัฐที่มีประธานาธิบดีที่ได้รับการเลือกตั้งโดยตรง ประธานาธิบดีเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการ Althing (Alþingi) เป็นรัฐสภาและมีอำนาจสูงสุดในไอซ์แลนด์ แม้ว่าไอซ์แลนด์จะไม่ใช่สมาชิกสหภาพยุโรป แต่ก็เป็นผู้ลงนามในข้อตกลง EEA ดังนั้นจึงเป็นส่วนหนึ่งของเขตเศรษฐกิจยุโรป ไอซ์แลนด์เป็นสมาชิกของ NATO
ภาษาราชการ: ภาษาไอซ์แลนด์
GDP ต่อหัว: € 37,100 (2020)
สกุลเงิน: ไอซ์แลนด์โครนา (ISK)
ประชากร (2022):  368,792
มากกว่าครึ่งหนึ่งของประชากร 370,000 อาศัยอยู่ในและรอบ ๆ เมืองหลวงเรคยาวิก (Reykjavík)

หมู่เกาะแฟโรและกรีนแลนด์ (Faroe Islands and Greenland)

- หมู่เกาะแฟโร (Faroe Islands)


การประมงและทิวทัศน์ที่ขรุขระแสดงถึงลักษณะของหมู่เกาะแฟโร ซึ่งเป็นหมู่เกาะในมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ  หมู่เกาะแฟโรเป็นส่วนหนึ่งของราชอาณาจักรเดนมาร์ก

ภาษาราชการ: ภาษาแฟโร
สกุลเงิน: เดนมาร์กโครน (DKK)
ประชากร (2022):  52,934
ประชากรของหมู่เกาะแฟโรอยู่ที่ 52,934 คน เกือบครึ่งหนึ่งอาศัยอยู่ในเมืองหลวงทอร์สเฮาน์ (Tórshavn)

- กรีนแลนด์ (Greenland)






กรีนแลนด์เป็นส่วนหนึ่งของราชอาณาจักรเดนมาร์ก แต่มีเอกราชในวงกว้าง ซึ่งขยายออกไปในปี 2552 กรีนแลนด์เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในโลก เกือบ 80% ของมันถูกปกคลุมด้วยน้ำแข็งและธารน้ำแข็ง พื้นที่ปลอดน้ำแข็งเกือบจะใหญ่เท่ากับสวีเดน แต่มีพื้นที่เพาะปลูก (
arable area) เพียงเล็กน้อยเท่านั้น

ภาษาราชการ: ภาษากรีนแลนด์ คนส่วนใหญ่พูดกัน แม้ว่าประชากรส่วนน้อยจะถือว่าตัวเองพูดได้สองภาษาและใช้ภาษาเดนมาร์กเป็นภาษาคู่ขนาน
สกุลเงิน: เดนมาร์กโครน (DKK)
ประชากร (2022):  56,421
กรีนแลนด์มีประชากรประมาณ 56,000 คน โดยประมาณ 18,000 คนอาศัยอยู่ในเมืองหลวงนุก (Nuuk)

โอลันด์(Åland)






โอลันด์ประกอบด้วยเกาะ 6,757 เกาะที่ตั้งอยู่กึ่งกลางระหว่างสวีเดนและฟินแลนด์ แม้ว่า Åland จะเป็นส่วนหนึ่งของฟินแลนด์ แต่ Ålanders พูดภาษาสวีเดนได้
ภาษาราชการ: ภาษาสวีเดน (ในขณะที่ฟินแลนด์มีภาษาราชการสองภาษา คือ ฟินแลนด์และสวีเดน ในทางปฏิบัติ ชาวโอลันด์เดอร์จำนวนมากสามารถพูดภาษาฟินแลนด์ได้ในระดับต่างๆ กัน แต่ก็ไม่สามารถพูดภาษาฟินแลนด์ได้ทั้งหมด)
GDP ต่อหัว: €36,200 (2020)
สกุลเงิน: ยูโร 
ประชากร (2022):  30,129
ด้วยประชากรประมาณ 30,000 คน Åland มีประชากรน้อยที่สุดในสามเขตปกครองตนเองในภูมิภาคนอร์ดิก หนึ่งในสามของประชากรอาศัยอยู่ในเมืองหลวงมารีฮามน์ (Mariehamn)

Thursday, 29 September 2022

ตัวอักษรในภาษาสวีเดน Swedish Alphabet

 



ตัวอักษรสวีเดน การเรียนรู้อักษรสวีเดนมีความสำคัญมากเพราะมีการใช้โครงสร้างในการสนทนาทุกวัน หากไม่มีสิ่งนี้ คุณจะไม่สามารถพูดคำได้อย่างถูกต้องแม้ว่าคุณจะรู้วิธีเขียนคำเหล่านั้นก็ตาม ยิ่งคุณออกเสียงตัวอักษรในหนึ่งคำได้ดีเท่าใด คุณก็จะยิ่งเข้าใจภาษาสวีเดนมากขึ้นเท่านั้น ด้านล่างนี้คือตารางที่แสดงตัวอักษรสวีเดนและวิธีออกเสียงในภาษาอังกฤษ และสุดท้ายคือตัวอย่างว่าตัวอักษรเหล่านั้นจะออกเสียงอย่างไรหากคุณใส่ลงในคำ

ตัวอักษรสวีเดนมี 29 ตัวอักษร (The Swedish alphabet has 29 letters.)

พยัญชนะ 20 ตัว (20 consonants): b, c, d, f, g, h, j, k, l, m, n, p, q, r, s, t, v, w, x, z
สระ 9 ตัว (9 vowels): a, e, i, o, u, y, å, ä, ö


Swedish AlphabetEnglish SoundPronunciation Example
A a/ɑː/a as in ask
B b/beː/b as in bank
C c/seː/s before i,e,y other "k" in Canada
D d/deː/d as in David
E e/eː/e as in elevated, "a" before "g"
F f/æf/f as in Frank
G g/ɡeː/s as in pleasure before e,i,y,ä,ö. Or "g" as in God elsewhere
H h/hoː/h as in holiday
I i/iː/as in ink
J j/jiː/j as in 's' in pleasure
K k/koː/k as in kid
L l/æl/, /ˈæl.læ/l as in life
M m/æm/, /ˈæm.mæ/m as in mom
N n/æn/, /ˈæn.næ/n as in noon
O o/oː/o as in old
P p/peː/p as in pope
Q q/kuː/Q is no longer used
R r/ær/, /ˈær.ræ/as in brother
S s/æs/, /ˈæs.sæ/s as in Sam
Š š/ˈhat.tuˌæs/sh as in ship, sometimes 's' in small
T t/teː/t as in table, sometimes as in 'd' as in mat
U u/uː/as in the ultra
V v/ʋeː/sounds like a "b" in Basque
W w/ʋeː/v as in vast
X x/æks/, /ˈæk.sæ/ks as in wax
Y y/yː/y as in year
Z z/tset/, /ˈtse.tɑ/s as in small
Ž ž/ˈhat.tuˌtset/,sh before e,i,y,ä,ö, "chs" before a,o,å,u
Å å/oː/oo in poor
Ä ä/æː/ae as in ache
Ö ö/øː/u as in ultra

Wednesday, 28 September 2022

att gå กับ att åka ต่างกันอย่างไร (What’s the difference between gå and åka?)


 


คำกริยาทั้งสองนี้  "gå กับ att åka" แปลได้ว่า "ไป" แต่

ATT ÅKA

att åka หมายความว่า การเดินทางหรือไปโดยใช้ยานพาหนะบางประเภท (รถไฟ รถบัส ฯลฯ) พูดง่ายๆคือ การย้ายจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งด้วยความช่วยเหลือบางอย่าง เช่น รถยนต์ รถประจำทาง หรือสกี ฯลฯ ในภาษาอังกฤษคือ to ride, to take (buss, boat, plane, etc.)

* ผันคำ åka (åker, åkte, åkt) – röra sig med hjälp av något, resa.

åka bil
to go by car
ไปโดยรถยนต์

åka buss
to go by bus
ไปโดยรถบัส

åka skidor
to ski
เล่นสกี

åka cykel
to go by bike
ไปโดยจักรยาน

åka båt
to take a boat
ไปโดยเรือ

åka rullskridskor
to rollerskating

åka bergochdalbana
to ride a rollercoaster
นั่งรถไฟเหาะ

เมื่อคุณเดินทางไปที่ไหนสักแห่ง เช่น:

åka till fjällen
to go to the mountains
ไปภูเขา (ในกรณีนี้เราใช้ åka เพราะคุณไม่สามารถเดินเท้าได้)

åka utomlands
to go abroad
ไปต่างประเทศ (ในกรณีนี้เราใช้ åka เพราะคุณไม่สามารถเดินเท้าได้)

ตัวอย่าง
Jag ska åka till affären.
I'm going to the store (by car/bike/bus etc) 
ฉันจะไปร้าน (โดยรถยนต์/จักรยาน/รถบัส ฯลฯ)

ATT GÅ

att gå แปลว่า ไปหรือการเดินเท้า (ไม่ว่าจะเป็น เดิน, เดินขบวน, ไป, เดินทาง, ออกเดินทาง, ผ่านไป, แล่นเรือ, วิ่ง สิ่งที่ทำด้วยเท้า) ในภาษาอังกฤษคือ to walk, to run, to march, on foot 

ผันคำ gå (går, gick, gått) – flytta sig med hjälp av fötterna på vanligt sätt, röra sig åt något håll, lämna en plats.

ตัวอย่าง
Jag ska gå till affären.
I'm going to the store (on foot)
ฉันจะไปร้าน (เดินเท้า)

แต่มีข้อยกเว้นในการใช้ "gå"

1. เมื่อคุณถามถึงทางหรือทิศทาง

Går det här tåget till Malmö?
Does this train go to Malmö?
รถไฟขบวนนี้ไป Malmö หรือไม่? 

Vart går den här vägen?
Where does this road go (lead) to?
ถนนสายนี้ไปทางไหน?  

2. การขอให้เดินทางโดยสวัดิภาพ

Hoppas att resan går bra.
Hope the trip goes well.
หวังว่าการเดินทางจะเป็นไปด้วยดี 

3. การเน้นเสียงคำในประโยคและการถามถึงสิ่งที่ทำ, สิ่งที่เป็น หรือ กิจวัตร

gå i skolan / gå i kyrkan / gå på bio 
to go to school / to go to church / to go to the movies
ไปโรงเรียน / ไปโบสถ์ ไปโรงเรียน / ไปดูหนัง  (ใช้ เพราะแค่จะบอกสิ่งที่จะทำ ไม่ได้หมายถึงการเดินทาง)
* หากคุณเน้นคำว่า "Gå" ในประโยค มักจะหมายถึง "เดิน" ถ้าคุณไม่เน้น "Gå" ก็มักจะเป็น "Gå" ที่หมายถึงสิ่งที่ทำ, สิ่งที่เป็น หรือ กิจวัตร

เปรียบเทียบ 2 ประโยคนี้

Ska du *gå* dit? เน้นเสียงที่ "Gå"
 
Are you walking there?
คุณกำลังเดินไปที่นั่น?  

Ska du gå *dit*?   เน้นเสียงที่ "dit" 
Are you going there?
คุณจะไปที่นั่นไหม

4. การเดินทางสำหรับคำนามนับไม่ได้

Ljus går mycket snabbare än ljud.
Light travels much faster than sound.
แสงเดินทางเร็วกว่าเสียงมาก 

5. ความหมายเฉพาะ "gå" หมายความว่า  "เป็นไปได้!  / ได้!/

Det går inte!
It doesn't work! / We can't do it! /
มันเป็นไปไม่ได้!  / เราทำไม่ได้! / 

A: Kan jag komma imorgon?
A: Can I come tomorrow?
A: พรุ่งนี้ฉันมาได้ไหม 
B: Ja, det går bra!
B: Sure, that's alright!
B: แน่นอน ไม่เป็นไร!

ตัวอย่างเพิ่มเติมเพื่อเปรียบเทียบ

Han åker tunnelbana till jobbet. (ในกรณีนี้เราใช้ åka เพราะคุณไม่สามารถเดินเท้าได้ ใช้ยานพาหนะ)
He takes the subway to work.
เขานั้งรถไฟใต้ดินไปทำงาน

Anne åker till Thailand i firmans ärenden. (ในกรณีนี้เราใช้ åka เพราะคุณไม่สามารถเดินเท้าได้ ใช้ยานพาหนะ)
Anne is going to Thailand on company's business.
แอนเดินทางไปเมืองไทยเพื่อทำธุรกิจของบริษัท 

På sommaren åkte vi till Thailand.
In the summer we went to Thailand. 
ในฤดูร้อนเราไปเมืองไทย

Jag går sällan på opera. (บอกสิ่งที่ทำ, สิ่งที่เป็น หรือ กิจวัตร)
I rarely go to the opera. 
ฉันไม่ค่อยไปโอเปร่า 

Jag åker in till stan. (ในกรณีนี้เราใช้ åka เพราะคุณไม่สามารถเดินเท้าได้ 
ใช้ยานพาหนะ)
I'm going into town.
ฉันจะเข้าไปในเมือง

Jag går in till stan. (ในกรณีนี้เราใช้ går เพราะคุณเดินเท้าไปในเมือง)
I'm going into town.
ฉันจะเข้าไปในเมือง

Jag åker till Stockholm. (ในกรณีนี้เราใช้ åka เพราะคุณไม่สามารถเดินเท้าได้)
I'm going to Stockholm
ฉันจะไปสตอกโฮล์ม

Anne åker till flygplatsen. (ในกรณีนี้เราใช้ åka เพราะคุณไม่สามารถเดินเท้าได้)
Anne goes to the airport.
แอนไปสนามบิน

Vi går i bastu varje lördag. (บอกสิ่งที่ทำ, สิ่งที่เป็น หรือ กิจวัตร)
We go to the sauna every Saturday.
เราไปซาวน่าทุกวันเสาร์ 

Våra barn går ännu i skola. (บอกสิ่งที่ทำ, สิ่งที่เป็น หรือ กิจวัตร)
Our children are still in school.
ลูกของเรายังเรียนอยู่



Monday, 26 September 2022

If I was หรือ If I were อันไหนถูกต้อง (Conditional sentences — Type 2 — If I were you)

 





เมื่อใดควรใช้ If I was

“If I was” ใช้กับเหตุการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นไปแล้วในอดีตใช้เพื่อแสดงบางสิ่งที่เป็นจริงเมื่อหรือหากมีสิ่งๆนั้นเกิดขึ้นในอดีต

If I was sick, he would take me to the hospital.
ถ้าฉันป่วย เขาคงจะพาฉันไปโรงพยาบาล

If I was being mean to you, I'm really sorry.
ถ้าฉันใจร้ายกับคุย ฉันขอโทษจริงๆ

If I was rude to you, I apologise.
ถ้าฉันหยาบคายกับคุณ ฉันขอโทษ

If she was going to the party she would have told you already.
ถ้าหล่อนจะไปงานเลี้ยง หล่อนคงจะบอกคุณไปแล้วล่ะ

เมื่อใดควรใช้ If I were

“If I were” ใช้กับประโยคสมมุติ เเมื่อประธานของประโยคอ้างถึงสถานการณ์สมมติ จินตนาการ หรือสถานการณ์ที่ขัดแย้งกับความเป็นจริง

If I were a boy, I would treat you better than him.
ถ้าฉันเป็นเด็กผู้ชาย ฉันจะปฏิบัติต่อคุณดีกว่าเขา 
*แต่ในชีวิตจริงคุณไม่ใช่ผู้ชาย คุณเป็นผู้หญิง

If I were Bill Gates, I would be the richest person in the world.
ถ้าฉันเป็น Bill Gates ฉันจะเป็นคนที่ร่ำรวยที่สุดในโลก
แต่ในชีวิตจริงคุณไม่ใช่  Bill Gates

If I were rich, I would travel in the world.
ถ้าฉันรวย ฉันจะเที่ยวรอบโลก
*ตอนนี้ยังไม่รวย และอาจจะไม่รวยก็ได้ 

If he were a cat, he would take nap all day.
ถ้าเขาเป็นแมว เขาคงนอนทั้งวัน
*คนกลายเป็นแมวไม่ได้ จึงเป็นเรื่องสมมุติเกินจริง

ตัวอย่างประโยค

If I were rich, I would ...
ถ้าฉันรวย ฉันจะ... 

If I were the president of my country
ถ้าฉันเป็นประธานาธิบดีของประเทศฉัน

I would... If were a bird.
 ฉันจะ... ถ้าเป็นนก 

I would... If I were young again.
ฉันจะ... ถ้าฉันยังเด็กอีกครั้ง

เปรียบเทียบ If I was หรือ If I were

If I were you I would call her. → subjunctive mood (สถานการณ์สมมติ)
If I was you I would call her. → past simple (อดีต)

Incorrect: If I was you, I would tell him the truth.
ไม่ถูกต้อง: ถ้าฉันเป็นคุณ ฉันจะบอกความจริงกับเขา
Correct: If I were you, I would tell him the truth. 
ถูกต้อง: ถ้าฉันเป็นคุณ ฉันจะบอกความจริง
กับเขา

Incorrect: If I were rude, I’m sorry. 
ไม่ถูกต้อง: ถ้าฉันหยาบคายฉันขอโทษ 
Correct: If I was rude, I’m sorry.
ถูกต้อง: ถ้าฉันหยาบคายฉันขอโทษ

Incorrect If I was a rich man, I would make more charitable donations. 
ไม่ถูกต้อง หากฉันเป็นเศรษฐี ฉันจะบริจาคเพื่อการกุศลมากกว่านี้ 
Correct f I were a rich man, I would make more charitable donations. 
ถูกต้อง ถ้าฉันเป็นเศรษฐี ฉันจะบริจาคเพื่อการกุศลมากกว่านี้ 

Incorrect If he was here right now, he would help us. 
ไม่ถูกต้อง ถ้าเขาอยู่ที่นี่ตอนนี้เขาจะช่วยเรา 
Correct If he were here right now, he would help us.
ถูกต้อง ถ้าเขาอยู่ที่นี่ตอนนี้ เขาจะช่วยเรา


  1. แบบฝึกหัดConditional sentences — Type 2 — If I were you




Saturday, 24 September 2022

รู้งี้...น่าจะ(อย่างงั้น อย่างงี้) ภาษาอังกฤษใช้คำว่า???

เพื่อนๆเคยมีอาการเสียดายกันบ้างไหมคะ เสียดายที่ไม่ได้ทำแบบนั้นหรือเสียดายในสิ่งที่ได้ทำไปในอดีต ภาษาอังกฤษจะมีมีวิธีพูดอย่างไรน้า เรามาดูกันเลยค่ะ


Should have + verb participle (v.3)

Should have + verb participle (v.3) คือ ควรทำสิ่งนั้นในอดีต เพราะในปัจจุบันไม่ได้ทำ จึงเกิดอาการเสียดายที่ไม่ได้ทำมันลงไป 

ตัวอย่าง

I should have called you sooner. 
รู้งี้ฉันควรจะโทรหาคุณเร็วกว่านี้

I should have read the directions before starting.
ฉันควรจะอ่านคำแนะนำก่อนเริ่ม

I should have eaten breakfast this morning.
รู้งี้เช้านี้ฉันน่าจะกินข้าวเช้า

I should have listened to your advice.
รู้งี้ฉันควรจะฟังคำแนะนำของเธอ

I should have married her when I had the chance.
รู้งี้ฉันควรจะแต่งงานกับเธอเมื่อมีโอกาส

You should have spoken to me before deciding.
รู้งี้คุณควรคุยกับฉันก่อนตัดสินใจ

I should have bought that bag. I like it so much.
ฉันน่าจะซื้อกระเป๋าใบนั้น ฉันชอบมันมาก

I should have listened to me.
รู้งี้ฉันควรฟังเธอนะ

You should have brought your eye glasses with you.
รู้งี้เธอควรหยิบแว่นของเธอมาด้วย

I failed the test. I should have studied harder.
ฉันสอบตก รู้งี้ฉันน่าจะตั้งใจทบทวนบทเรียนมากกว่านี้

You should have used protection last night. Sigh!
รู้งี้เมื่อคืนเธอน่าจะป้องกันนะ! เฮ้อออ

I should have gone with you.
รู้งี้ฉันควรจะไปกับคุณ

I should have studied more for my test.
ฉันควรจะศึกษามากกว่านี้เพื่อการสอบของฉัน 

Shouldn’t have + verb participle (v.3)

Shouldn’t have + verb participle (v.3) คือ ไม่ควรทำสิ่งนั้นลงไปเลย 

ตัวอย่าง

I should not have done that!
รู้งี้ไม่น่าทำเลย!

I should not have stayed awake so late last night.I'm really tired today. 
รู้งี้ฉันไม่ควรตื่นนอนดึกแบบนี้เมื่อคืนนี้ วันนี้ฉันเหนื่อยมาก 

I shouldn't have shouted at her.
รู้งี้ฉันไม่ควรตะโกนใส่เธอ

I shouldn’t have invited her to the cinema. Linda talked all the way through the movie.
ฉันไม่น่าชวนเธอมาดูหนังด้วยเลย ลินดาพูดตลอดเวลาเลย 

My cousin is in jail. He shouldn’t have robbed a bank.
ลูกพี่ลูกน้องของฉันของฉันติดคุก เขาไม่ควรปล้นธนาคารเลย

We shouldn’t have watched it. The movie was boring!
รู้งี้เราไม่น่าไปดูหนังเลย หนังน่าเบื่อมาก!

สรุปอีกรอบนะคะ  Should have + v.3 คือ สิ่งควรทำในอดีต ส่วน Shouldn’t have + v3 คือ สื่งที่ไม่ควรทำอดีต ถ้าเราไม่อยากต้องนั่งเสียดายอะไรในอดีต ก็ต้องคิดดี ๆ คิดก่อนทำกันนะคะทุกคน 

Popular Post