Thursday, 22 September 2022

ไม่ต้องกังวล" ในภาษาสวีเดน - igen ko på isen idiom




ถ้าแปลสำนวนนี้โดยตรงจะหมายความว่า "ไม่มีวัวอยู่บนน้ำแข็ง"

Ingen ko 
No cow
ไม่มีวัว 

på isen 
on the ice
บนน้ำแข็ง 

สำนวนนี้ "Ingen ko på isen" จะแปลว่า "ไม่ต้องเป็นห่วง" หรือ "ไม่ต้องเป็นกังวล" จะมีความหมายว่า "ingen fara.", "oroa dig inte" , 
 หรือ "ingen särskild brådska" ในภาษาสวีเดนนั้นเองค่ะ


Photo: www.bingolotto.se/nyheter/bingobloggen/

ตัวอย่าง

Ta det lugnt, det är ingen ko på isen.

Take it easy! There is no cow on the ice.
ใจเย็นๆ! ไม่ต้องกังวลไป

Men det är nog ingen ko på isen.
It's hardly a smoking gun.
แทบไม่มีหลักฐาน

เรื่องเล่าขำๆ

เรื่องเล่า 1

วัวบนน้ำแข็งในทะเลสาบ หากเป็นน้ำแข็งที่สะอาด (ไม่ใช่หิมะปกคลุม) ค่อนข้างจะควบคุมเท้าไม่ได้ ไม่สนใจทิศทางที่มันลื่นไถล มันอาจทำให้ขาหักได้ง่าย ในเวลาเดียวกัน มันหนักกว่ามนุษย์มาก ดังนั้นมันอาจทะลุผ่านน้ำแข็งที่มนุษย์สามารถเดินได้อย่างปลอดภัย โดยรวมแล้ว วัวกำลังตื่นตระหนก มนุษย์ที่พยายามจะจับมันขึ้นฝั่งกำลังวิ่งไปรอบๆ ด้วยความโกลาหลทั้งหมด และเป็นปรากฏการณ์สำหรับทุกคนในหมู่บ้านและเป็นเรื่องที่ต้องบอกลูกหลานของคุณนั้นเองค่ะ

เรื่องเล่า 2

เคยเป็นกิจวัตรประจำวันในการพาวัวไปที่ทะเลสาบที่พวกมันสามารถดื่มนำ้ได้ใ นฤดูหนาว ทะเลสาบจะกลายเป็นน้ำแข็ง วิธีแก้ปัญหาคือเจาะนำ้แข็งเป็นรู รูต้องอยู่กลางทะเลสาบเล็กน้อยเพื่อให้แน่ใจว่าคุณภาพน้ำดี

การนำวัวออกไปบนน้ำแข็งเป็นสิ่งที่มีความเสี่ยงสูง มนุษย์ที่ลื่นบนน้ำแข็งจะตกลงไปในทิศทางเดียวและอาจทำร้ายตัวเองได้ วัวต้องเผชิญกับอันตรายมากขึ้นเนื่องจากสามารถลื่นเพื่อให้ขาหลังเลื่อนไปข้างหน้าและขาหน้าจะเลื่อนไปข้างหลังพร้อมกัน หากเป็นเช่นนั้นขาจะงอออกจากตำแหน่งและวัวจะไม่สามารถฟื้นตัวได้

วัวมีแนวโน้มที่จะลื่นบนน้ำแข็ง เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่ร้ายแรงนี้ อาจจะทำให้วัวตายได้ เวลาวัวตายแล้วอาจหมายถึงความอดอยากและความตายสำหรับครอบครัว เพราะฉนั้นในสมัยก่อนวัวตัวอื่นจะถูกมัดไว้บนบก ในขณะที่วัวอีกตัวหนึ่งจะถูกพาไปที่รูในน้ำแข็ง มีการคุ้มกันอย่างระมัดระวังนั้นเองค่ะ

Thursday, 8 September 2022

A กับ An แตกต่างกันยังไง และมีวิธีการใช้อย่างไร



การเลือกใช้ a หรือ an จะดูจาก อักษรตัวแรกของคำนามที่ถูกนำหน้า 

1. ใช้ a หรือ an หน้าคำนามนับได้ (countable nouns) ย้ำว่าต้องเป็นคำนามนับได้ (countable nouns) เท่านั้น
2. ต้องเป็นคำนามเอกพจน์ (singular) เท่านั้น 
3. เราจะใช้ a เมื่อคำนามถัดไปขึ้นต้นด้วยพยัญชนะ (consonants) และใช้ an เมื่อคำนามคำถัดไปเริ่มต้นด้วยสระ (vowels - a,e,i,o,u)

แต่จะมีข้อยกเว้นในการใช้

1.  หากคำเริ่มต้นด้วย u และ eu โดยออกเสียงเหมือนคำว่า you ซึ่งออกเสียงเป็นตัว Y ซึ่งเป็นพยัญชนะ ให้ใช้ a  

ตัวอย่างเช่น

a ukelele (อูคูเลเล่)

a university (
มหาวิทยาลัย)

a uniform (
เครื่องแบบ)

a unit (
หน่วย)

a European (
ชาวยุโรป)

a euro (หนึ่งยูโร)

    2. หากคำไหนขึ้นต้นด้วย h แต่ไม่มีเสียง h ให้ใช้ an

    ตัวอย่างเช่น

    an hour (หนึ่งชั่วโมง)

    an heir (
    ทายาท

    an herb (
    สมุนไพร)

    3. เราสามารถใช้ a หรือ an นำหน้าคำนามนับที่นับไม่ได้ (uncountable nouns) ได้บางกรณีค่ะ

    ตัวอย่างเช่น คำว่า "a water" ใช้ได้ เวลาที่เราพูดว่า "Can I have a water?" คนจะคิดว่าเราต้องการน้ำสักแก้ว. นั้นเองค่ะ เหมือรเราละคำว่า  "a glass of water" ในฐานที่เข้าใจนั้นเองค่ะ

    หรือคำว่า "Passion" ก็สามารถใช้โดยมีหรือไม่มีคำว่า "a" นำหน้าก็ได้เหมือนกันค่ะ

    ตัวอย่าง

    A: Waiter, I want a water, please. (คือ I want a glass of water. นั้นเองค่ะ)
    A: บริกร ฉันต้องการน้ำ ได้โปรด 
    B: Who else wants water?
    B: ใครต้องการน้ำอีกบ้าง?

    I have a passion for art.  (คือ 
    My passion is art.)

    Helium is a gas. (คือ  Helium is a type of gas. นั้นเองค่ะ)

    It's a very good soap. (คือ a kind of soap )

    ***ไม่ผิดหรอกที่จะบอกว่า "a water" เจ้าของภาษาพูดตลอดเวลา เป็นคำสั้นๆ ที่พูดว่า "a glass/bottle of water"


    เรามาดูวิธีการใช้ A กับ Anกันค่ะ

    - ใช้ a และ an เมื่อกล่าวในรูปเอกพจน์

    ตัวอย่างเช่น
    • a girl
      หญิงสาวคนหนึ่ง
    • an apple
      แอปเปิ้ลรถ
    • a helicopter
      เฮลิคอปเตอร์
    • an big elephant
      ช้างตัวใหญ่
    • an itchy sweater
      เสื้อกันหนาวที่คัน
    • an ugly duck
      เป็ดขี้เหร่
    • a European
      ชาวยุโรป
    • a university
      มหาวิทยาลัย
    • a unit
      หน่วย
    • an hour
      หนึ่งชั่วโมง
    • an honor
      เป็นเกียรติ

    - ใช้ a และ an เมื่อกล่าวถึงสิ่งนั้น ๆ เป็นครั้งแรก

    ตัวอย่างเช่น

    • Would you like a drink?
      คุณต้องการเครื่องดื่มไหม
    • I've finally got a good job.
      ในที่สุดฉันก็ได้งานที่ดี
    • An elephant and a mouse fell in love.
      ช้างกับหนูตกหลุมรักกัน 
    - ใช้ a และ an การกล่าวถึงสมาชิกในกลุ่มหรืออาชีพ


    ตัวอย่างเช่น

    • John is a doctor.
      จอห์นเป็นหมอ 
    • Mary is training to be an engineer.
      แมรี่กำลังฝึกเพื่อเป็นวิศวกร 
    • He wants to be a dancer.
      เขาอยากเป็นนักเต้น
    - ใช้ a และ an กับสัญชาติและศาสนาเมื่อกล่าวในรูปเอกพจน์

    ตัวอย่างเช่น
    • John is an Englishman
      จอห์นเป็นคนอังกฤษ
    • Kate is a Catholic.
      เคทเป็นคาทอลิก

    - ใช้ a และ an กับวันประจำสัปดาห์ เมื่อกล่าวโดยทั่วไปไม่ได้เจาะจง

    ตัวอย่างเช่น

    • I was born on a Thursday.
      ฉันเกิดวันพฤหัสบดี
    • Could I come over on a Saturday sometime?
      ฉันขอมาวันเสาร์ได้ไหม

    - ใช้ a และ an  เมื่อกล่าวถึงตัวอย่างเกี่ยวกับบางสิ่งบางอย่าง


    ตัวอย่างเช่น

    • The mouse had a tiny nose .
      หนูมีจมูกเล็ก
    • The elephant had a long trunk .
      ช้างมีงวงยาว
    • It was a very strange car .
      มันเป็นรถที่แปลกมาก


    - ใช้ a และ an กับคำนามเอกพจน์ที่อยู่หลังคำว่า 'what' และ 'such'


    ตัวอย่างเช่น

    • What a shame !
      น่าเสียดายอะไร ! 
    • She's such a beautiful girl .
      เธอเป็นสาวสวย !
    • What a lovely day !
       ช่างเป็นวันที่น่ารัก!


    - ใช้ a และ an เมื่อต้องการหมายถึง 'one' เพื่ออ้างถึงสิ่งเดียว คนเดียว หรือหน่วยเดียว ในประโยคเหล่านี้ สามารถใช้  "one" แทนการใช้ a ได้ เพื่อเป็นการเน้นจำนวนให้ชัดเจน


    ตัวอย่างเช่น

    • I'd like an orange and two lemons please.
      ฉันต้องการส้มหนึ่งลูกและมะนาวสองลูก 
    • I'd like one orange and two lemons please.
      ฉันต้องการส้มหนึ่งลูกและมะนาวสองลูก 
    • The burglar took a diamond necklace and some valuable paintings.
      หัวขโมยหยิบสร้อยคอเพชรและภาพวาดล้ำค่า 
    • I can think of a hundred reasons not to come.
      ฉันนึกเหตุผลเป็นร้อยๆ ที่จะไม่มา 
    • I need a kilogram of sugar.
      ฉันต้องการน้ำตาลหนึ่งกิโลกรัม 
    • I need one kilogram of sugar.
      ฉันต้องการน้ำตาลหนึ่งกิโลกรัม 
    • You can't run a mile in 5 minutes!
      วิ่งไม่ถึงไมล์ใน 5 นาที!

    A, And Online Exercise (แบบฝึกห้ด)



    Tuesday, 6 September 2022

    เรียนรู้คำศัพท์จีน-อาหารที่เจอบ่อยในช่วงเทศกาลไหว้พระจันทร์



    นอกจากขนมไหว้พระจันทร์แล้ว มีอะไรให้ทานอีกบ้างในช่วงเทศกาลไหว้พระจันทร์?

    (除了月饼,中秋佳节还能吃啥? (Chúle yuèbǐng, zhōngqiū jiājié hái néng chī shà?)

    1.月饼 (yuèbǐng) 
    Moon Cake 
    ขนมไหว้พระจันทร์

    ขนมไหว้พระจันทร์เป็นสัญลักษณ์ของพระจันทร์เต็มดวงและความปรารถนาของผู้คนเพื่ออยากจะมีความสุขและหมายถึงการรวมตัวของครอบครัว 

    2. 柚子 (yòuzi) Pomelo/Grapefruit ส้มโอ

    ส้มโอ (ส้มโอจีน) เป็นผลไม้ชนิดหนึ่งที่ได้รับความนิยมในช่วงเทศกาลไหว้พระจันทร์เพราะ 柚 (yòu) ในภาษาจีนเป็นคำพ้องความหมายของคำว่า "佑 (yòu) - พรหรือการปกป้อง" แปลว่า การขอพรจากพระจันทร์

    การกินขนมไหว้พระจันทร์คู่กับส้มโอหวานอมเปรี้ยวไม่เพียงแต่น่ารับประทาน แต่ยังทำให้รู้สึกสดชื่นอีกด้วยค่ะ

    3. 莲藕 (lián ǒu) Lotus root รากบัว

    รากบัวเป็นอาหารมงคลเนื่องจากชื่อและเนื้อสัมผัส ชื่อภาษาจีน 莲藕 ออกเสียงเหมือนกับ 连偶 แปลว่า "การอยู่ร่วมกันเป็นคู่" และเส้นใยที่ละเอียดอ่อนของรากบัวเป็นสัญลักษณ์ของสายสัมพันธ์อันแข็งแกร่งของครอบครัว

    连  (lián)  = เข้าร่วม / เชื่อมต่อ / ต่อเนื่อง
    偶 (ǒu)   =  คู่

    4. 芋头 (yùtou) 
    Taro เผือก

    เชื่อกันว่าการรับประทานเผือกในช่วงเทศกาลไหว้พระจันทร์จะช่วยปัดเป่าโชคร้ายและนำพาโชคลาภและความมั่งคั่งมาให้ ประเพณีนี้เริ่มขึ้นในสมัยราชวงศ์ชิง (ค.ศ. 1644–1911)

    ภาษาท้องถิ่นทางตะวันออกเฉียงใต้ของมณฑลเจียงซูและเจ้อเจียง "芋头 (yùtou)" เป็นคำพ้องเสียงเหมือนกับคำภาษาถิ่น ซึ่งหมายถึงความโชคดีและการขับไล่วิญญาณชั่วร้ายและภัยพิบัติ

    5. 石榴 (Shíliú) Pomegranate ทับทิม

    ฤดูใบไม้ร่วงเป็นฤดูของผลทับทิม ผลไม้สีแดงสวยงามที่มีเมล็ดนับร้อยอยู่ข้างใน เป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์  ในวัฒนธรรมจีนเชื่อกันว่าการกินทับทิมในเทศกาลขนมไหว้พระจันทร์จะช่วยดึงดูดโชคลาภและความอุดมสมบูรณ์ให้กับครอบครัว

    6.西瓜 (xīguā) Watermelon แตงโม

    เช่นเดียวกับผลทับทิม แตงโมเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับช่วงกลางฤดูใบไม้ร่วงเนื่องจากเมล็ดของมัน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์ และรูปทรงกลม แสดงถึงการรวมตัวของครอบครัว 

    7. 南瓜 (nán guā)  Pimpkin ฟักทอง

    ในประเทศจีน ผู้ที่มีไม่ค่อยมีกำลังทรัพท์ไม่สามารถซื้อขนมไหว้พระจันทร์ได้กเลยจะแทนที่ด้วยฟักทอง หลังจากทำเช่นนี้มาหลายปี 南瓜 (nán guā) จะถูกเพิ่มลงในรายการอาหารที่รับประทานโดยปริยาย

    แต่ในตำนานเล่าว่าเด็กผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งอาศัยอยู่กับพ่อแม่ที่ป่วยของเธอสะดุดฟักทองขณะทำงานในทุ่งนา เธอก็เลยนำฟักทองกลับบ้านและนำไปให้พ่อแม่ของเธอทาน หลังจากทานพ่อแม่ฟื้นตัวอย่างอัศจรรย์ 

    8. 板栗 (bǎnlì) Chestnuts เกาลัด

    เมื่อมาถึงกลางฤดูใบไม้ร่วง กลิ่นหอมของเกาลัดทอดน้ำตาลก็เริ่มแผ่ซ่านไปตามท้องถนน เกาลัด เช่น รากเผือก อ่างน้ำร้อน ก็เป็นของขบเคี้ยวที่ต้องกินในช่วงเทศกาลไหว้พระจันทร์เช่นกัน แพทย์แผนจีนเชื่อว่าการกินเกาลัดมีประโยชน์ต่อระบบย่อยอาหาร ซึ่งจะช่วยเติมพลังให้ไตและเสริมสร้างกล้ามเนื้อ

    9. 梨 (lí)  Pear สาลี่/ลูกแพร์

     "(lí)" เป็นคำพ้องเสียงของคำว่า "( lí) - แยก" ในภาษาจีน โดยปกติแล้วถือว่าเป็นอาหารที่โชคร้าย และคนจีนจะหลีกเลี่ยงการกินในช่วงเทศกาล ยกเว้นในเทศกาลไหว้พระจันทร์ การกินลูกแพร์ในเทศกาลนั้นจะหมายถึง "กินความแยกจากกัน" ให้หมดไปหมายถึงการรวมตัวตลอดไปนั้ยเองค่ะ

    10. 鸭 (yā)  Duck  เป็ด

    หลายๆ แห่งในประเทศจีนมีธรรมเนียมการกินเป็ดในช่วงเทศกาลไหว้พระจันทร์ ไม่เพียงเพราะประโยชน์ต่อสุขภาพของเป็ดเท่านั้น แต่
    การกินเป็ดยังเป็นนิทานพื้นบ้านเก่าแก่อีกด้วย

    ในช่วงกลางศตวรรษที่ 14 ชาวฮั่นตัดสินใจต่อสู้กับชาวมองโกเลียที่โหดเหี้ยมที่เรียกว่า " 鞑子 (dázǐ)ซึ่งฟังดูเหมือนคำว่า "鸭子 (yāzǐ) - เป็ด" ในภาษาถิ่นภาคเหนือ ดังนั้น ''การกินเป็ด" จึงเป็นรหัสที่ใช้สำหรับภารกิจลับกับราชวงศ์หยวนมองโกเลียที่เกิดขึ้นในเทศกาลไหว้พระจันทร์ปี 1368 เมื่อหยวนถูกโค่นล้มอำนาจนั้นเองค่ะ

    ตั้งแต่นั้นมา การกินเป็ดในเทศกาลไหว้พระจันทร์ได้กลายเป็นธรรมเนียมปฏิบัติในหลายๆ ที่ เมนูเป็ดยอดนิยม ได้แก่ เป็ดตุ๋นเผือก เป็ดพลัมเปรี้ยว และเป็ดตุ๋นย่าง

    11. 螃蟹 (pángxiè Crab ปู

    ปูที่คนจีนกินในช่วงเทศกาลนี้คือ " 大闸蟹(dàzháxiè) - ปูขน " ฤดูใบไม้ร่วงเป็นเวลาที่ดีที่สุดที่จะกินปูขน ดังนั้นจึงเป็นอาหารอันโอชะประจำฤดูกาลสำหรับเทศกาลไหว้พระจันทร์ ซึ่งเป็นไฮไลท์ของงานพบปะสังสรรค์กลางฤดูใบไม้ร่วงโดยเฉพาะในเซี่ยงไฮ้

    12. 河蜗牛 (hé wōniú) River Snails หอยทากแม่น้ำ

    หอยทากแม่น้ำเป็นตัวแทนของการเก็บเกี่ยวที่ดี เป็นอาหารที่ขาดไม่ได้สำหรับอาหารค่ำในช่วงเทศกาลไหว้พระจันทร์โดยเฉพาะคนในกวางโจวและฮ่องกง

    เชื่อกันว่าการรับประทานหอยทากแม่น้ำในช่วงเทศกาลไหว้พระจันทร์จะช่วยให้เก็บเกี่ยวผลผลิตได้ดี ปัดเป่าเคราะห์ร้ายออกไป รวมทั้งก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสุขภาพ เช่น ทำให้ดวงตาดูสดใส

    13. 桂花酒 (Guìhuā jiǔ)  Osmanthus wine หอมหมื่อนลี่ /เหล้าสารภีฝรั่ง

    ดอกหอมหมื่อนลี่ /สารภีฝรั่ง เป็นหนึ่งใน 10 ดอกไม้ที่มีชื่อเสียงในประเทศจีน มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ หวาน ๆ ของผลไม้และดอกไม้และถูกใช้ทำเครื่องหอม ชา ของหวาน และอาหารอื่น ๆ 

    “ 酒 (jiǔ) - แอลกอฮอล์” ในภาษาจีนเป็นคำพ้องเสียงของ “久(jiǔ) - ยาวนาน ” ดังนั้นการดื่ม 桂花酒 (Guìhuā jiǔ) ในช่วงเทศกาลจึงหมายถึงการกลับมาพบกันใหม่ของครอบครัว มิตรภาพอันเป็นนิรันดร์ และความสุขนั้นเองค่ะ


    Sunday, 4 September 2022

    งานที่สามในสวีเดน ได้เงินเดือนแล้ว EP 3



    #LearnSwedish #เรียนสวีเดน #ชีวิตในสวีเดน 

    website  ให้ใส่อาชีพที่อยากทำลองไปในช่องว่าง 
    https://arbetsformedlingen.se/platsbanken/




    Popular Post