care about someone/something ใช้เมื่อเรารู้สึกว่าบางคนหรือบางสิ่งมีความสำคัญและจะแปลว่าเป็นห่วงเป็นใยหรือกังวล
ถ้าเรา care about someone/something แสดงว่าคนนั้นหรือสิ่งนั้นสำคัญกับเรานั้นเองค่ะ
มาดูตัวอย่างกันเลยค่ะ Don’t you care about what happens to the children? คุณไม่สนใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเด็กเหรอ You know how much I care about you. คุณก็รู้ว่าฉันห่วงใยคุณมากแค่ไหน
I do care about you. หรือ I care about you. ฉันเป็นห่วงคุณ (แสดงความห่วงใย)
*** I care about you จะมีความหมายเหมือนกับ I’m worried about you. หรือ I’m concerned about you. นั้นเองค่ะ The government professes to care about the poor. รัฐบาลให้คำมั่นว่าจะดูแลคนยากจน
I really care about the students in my class. ฉันห่วงใยนักเรียนในชั้นเรียนมาก
Some people don't care about it. บางคนก็ไม่สนใจ
I don't care about his opinion. ฉันไม่สนใจความคิดเห็นของเขา (ไม่ได้สำคัญอะไร) He doesn't care about anyone but himself. เขาไม่สนใจใครนอกจากตัวเอง
CARE FOR
care for someone/something (phrasal verb)
จะมีความหมายว่า
1. เอาใจใส่, ดูแล care for จะเหมือนกับคำว่า "look after"
2. ชอบ/รัก หรือ อยาก/ต้องการ จะเหมือนกับคำว่า " to love" หรือ " to adore"
มาดูตัวอย่างกันเลยค่ะ
ตัวอย่างความหมายที่ 1: เอาใจใส่, ดูแล
I have to give up my job to care for my elderly mother. ฉันต้องลาออกจากงานดูแลแม่ที่อายุมากเเล้ว
She enjoyed caring for her baby. เธอสนุกกับการดูแลลูกของเธอ A doctor's primary responsibility is to care for her patients. ความรับผิดชอบหลักของแพทย์คือดูแลผู้ป่วยของเธอ
We need to find someone to care for our children while we are away on holiday. เราต้องการหาคนที่จะดูแลลูกๆของเราในขณะที่เราไปเที่ยวพักผ่อน I cared for my sick grandma last winter. ฉันดูแลยายที่ป่วยในช่วงฤดูหนาวปีที่แล้ว
Her elderly parents moved in to live with her, so she could more easily care for them. พ่อแม่ผู้สูงอายุของเธอย้ายไปอยู่กับเธอ ดังนั้นเธอจึงสามารถดูแลพวกเขาได้ง่ายขึ้น
ตัวอย่างความหมายที่ 2: ชอบ/รัก หรือ อยาก/ต้องการ
He really cared for her. เขาชอบเธอมาก She made him feel special and cared for. เธอทำให้เขารู้สึกพิเศษและชอบ
You know how much I care for you. คุณก็รู้ว่าฉันชอบคุณมากแค่ไหน
Would you care for a coffee? รับกาแฟสักแก้วมั้ยคะ?
Would anyone care for any fruits or desserts? ใครอยากได้ผลไม้หรือของหวานไหม?
*** Would you care for + something? ใช้พูดแบบเป็นทางการหรือสุภาพ ถามคนอย่างสุภาพว่าต้องการอะไร คุณจะสนใจอีกไหม
bry mig + om + คำนาม(ที่เป็นคนสิ่งของ) หรือตามด้วยประโยค
ตัวอย่าง
Jag bryr mig om dig. I care about you. ฉันแคร์หรือฉันเป็นห่วงคุณ
Tror du att jag bryr mig? Do you think I care? คุณคิดว่าฉันแคร์เหรอ För jag bryr mig bara om dig! Because I only care about you! เพราะฉันแคร์เธอเท่านั้น!
และถ้าเราจะพูดว่า "ฉันไม่แคร์" เราก็จะเติมคำว่า "inte" ลงไปในประโยคนั้นเองค่ะ ตัวอย่าง Jag bryr mig inte ett skit. I don't give a shit. กูไม่สนโว้ย
Jag bryr mig inte om vad du har gjort. I don't care what you have done. ฉันไม่แคร์/ไม่สนใจสิ่งที่คุณเคยทำ Jag bryr mig inte om vad du har att säga. I don't care what you have to tell him. ฉันไม่แคร์/ไม่สนว่าคุณต้องบอกเขายังไง Jag bryr mig inte om vad han säger. I don't care what he says. ฉันไม่แคร์/ไม่สนใจสิ่งที่เขาพูด Jag bryr mig inte om vad du och flickan har ihop. I don't care what's between you and the girl. ฉันไม่แคร์/ไม่สนว่าระหว่างคุณกับผู้หญิงคนนั้นเป็นอะไร
ตัวอย่าง Han struntade i att betala hyra och nu blir jag och barnet vräkta. He neglected to pay rent and now me and the child are being evicted. เขาละเลย/ไม่แคร์ที่จะจ่ายค่าเช่าและตอนนี้ฉันและเด็กกำลังจะถูกไล่ออก
Jag struntar i det. I don't care about it. ฉันไม่แคร์/ไม่สนมันเลย Om jag struntar i skylten var slutar det? If I ignore/don't care that sign where does it end? ถ้าฉันเพิกเฉย/ไม่สนใจป้ายนั้น มันจะสิ้นสุดที่ไหน?
Jag struntar i såna detaljer. I don't concern myself with those little details. ฉันไม่กังวล/ไม่แคร์กับรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เหล่านั้น Jag struntar i bitchar som du. This is why I don't deal with bitches like you. นี่คือเหตุผลที่ฉันไม่อยากยุ่งกับผู้หญิงเลว(แรด)อย่างคุณ Jag struntar i vems felet är. I do not care who is responsible. ไม่สนใจว่าใครรับผิดชอบ
เราลองมาดูวิธีที่จะพูดว่า "ฉันไม่แคร์" นอกเหนือจาก "I don't care" 1. I don't care at all.
เราใช้ "at all (เลย)" เพื่อเน้นว่าเราไม่สนใจเลย
A) Mary can't come to the party. A) แมรี่ไม่สามารถมางานปาร์ตี้ได้ B) I don't care at all. B) ฉันไม่สนใจเลย I don't care at all about her. / I don't care about her at all. ฉันไม่สนใจเธอเลย
2. I couldn't care less.
I couldn't care less. ถ้าแปลตรงตัวว่า "ฉันแคร์น้อยกว่านี้ไม่ได้" ซึ่งจะความหมายว่า "ไม่แคร์เลย" หรือเราอนจะพูดว่า I could care less. ซึ่งจะแปลตรงตัวว่า ฉันแคร์น้อยกว่านี้ได้ แต่ถ้าพูดแบบนี้ก็ยังสื่อความหมายเดียวกันว่า "ฉันไม่แคร์เลย" นั้นเองค่ะ
A) My house is bigger than your house. A) บ้านของฉันใหญ่กว่าบ้านของคุณ B) I couldn't care less. B) ฉันไม่แคร์เลย
A) You didn't win the contest. A) คุณไม่ได้ชนะการแข่งขัน B) I couldn't care less. B) ฉันไม่แคร์เลย
A) My car is faster than your car. A) รถของฉันเร็วกว่ารถของคุณ B) I couldn't care less. B) ฉันไม่แคร์เลย
It doesn't matter to me where we go. มันไม่สำคัญสำหรับฉันที่เราจะไป
It doesn't matter to me if it rains. ไม่เป็นไรสำหรับฉันถ้าฝนตก
It doesn't matter to me who wins. ไม่สำคัญสำหรับฉันใครชนะ
4. I don't give a damn.
I don’t give a damn แปลว่า “ฉันไม่สนหรอก, ฉันไม่แคร์, ช่างมันสิ” ถ้าแปลหยาบๆ คือ "กุไม่แคร์" นั้นเองค่ะ
I don’t give a damn จะคล้ายกับวลี I don't give a crap. (กุไม่แคร์ )
I don't give fuck. (กุไม่แคร์ / ช่างแม่มม ) อันนี้มันจะฟังดูหยาบกว่า
I don't give a shit. (กุไม่แคร์ ไอ้สั_) อันนี้มันจะฟังดูหยาบกว่า
A) Are you following the election? A) คุณติดตามการเลือกตั้งหรือไม่ B) I don't give a damn about the election. B) กุไม่แคร์เรื่องการเลือกตั้ง
A) You might get in trouble if you do that. A) คุณอาจประสบปัญหาหากคุณทำเช่นนั้น B) I don't give a damn. B) กุไม่แคร์
Sometimes, It’s necessary to say “I don’t give a fuck” to make your life get going. บางครั้ง มันก็จำเป็นที่ต้องพูดว่า “ช่างมัน ฉันไม่แคร์” เพื่อให้ชีวิตคุณเดินต่อไปได้
She can't carry a tune, but who cares? She's having fun and that's what matters. เธอไม่สามารถแต่งเพลงได้ แต่ใครจะสนล่ะ! เธอสนุกกับมันและนั่นคือสิ่งที่สำคัญ
Who cares what she says? We'll do it our way. ใครสนใจสิ่งที่เธอพูด เราจะทำมันในแบบของเรา
A) Gosh! You will be 50 next week. A) เอ้ย! คุณจะอายุ 50 ปีในสัปดาห์หน้า B ) I'll be 50 next week. So what? B ) ฉันจะอายุ 50 ปีในสัปดาห์หน้า แล้วไง
A) If you eat a lot of cookies, you will gain weight. A) ถ้าคุณกินคุกกี้มาก คุณจะอ้วน B) So what? B) แล้วไง
***เรายังสามารถเพิ่ม "if- statement" ได้ด้วยค่ะ
A) The boss might see you playing games on your computer. A) เจ้านายอาจเห็นคุณเล่นเกมบนคอมพิวเตอร์ของคุณ B) So what if he sees me? B) แล้วถ้าเขาเห็นฉันล่ะ
A) She won't come. A) เธอจะไม่มา B) So what if she doesn't come? B) เธอไม่มา แล้วไง
Who cares what day you do the grocery shopping as long as you buy the food. — Who cares if it's vegetarian food as long as it's free. — "Did you know your sister got first place in her swimming race?" "No, who cares?" — "I'm going to tell Mom that you're watching TV instead of doing your homework." "So, who cares!"
7.It's not my problem.
It’s not my problem. หนึ่งในวิธีการพูด "I don't care" ถ้าแปลตรงตัว "มันไม่ใช่ปัญหาของฉัน" It’s not my problem ก็จะหมายถึง มันไม่ใช่ปัญหาของฉันทำไมฉันจะต้องไปแคร์มันด้วย สำหรับประโยคนี้ก็ให้ความรู้สึกแบบใจร้ายนิดนึง 555
Well, I’m sorry you feel that way, but I’m afraid it’s not my problem.
Why don't you let them worry about it? It's not your problem. ทำไมคุณไม่ปล่อยให้พวกเขากังวลเกี่ยวกับมัน? มันไม่ใช่ปัญหาของคุณ
Don't tell me you don't have time to do your homework.It's not my problem. อย่าบอกฉันว่าคุณไม่มีเวลาทำการบ้าน มันไม่ใช่ปัญหาของฉัน
8.This may not be worth my time.
"This may not be worth my time" หรือ "It's not worth my time" หนึ่งในวิธีการพูด "I don't care" แบบสุภาพ ถ้าแปลง่ายๆความหมายคือ "ฉันไม่แคร์นี้มันไม่คุ้มค่ากับเวลาของฉัน"
"This may not be worth my time" ใช้ได้ดีเมื่อเราต้องการใช้คำว่า “may” เพื่อให้ความหวังเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย แม้ว่าคุณจะไม่สนใจสิ่งที่พวกเขาถามถึงก็ตาม แต่อย่างน้อยเราก็จะให้ความหวังว่าไมาใช้เราไม่สนใจเลน แม้ว่าเราจะคิดว่ามันไร้สาระก็ตาม
Oh, this may not be worth my time at all. I’m sorry, but I think you should find someone else.
This may not be worth my time.I'll see what I can do. นี้มันไม่คุ้มค่ากับเวลาของฉัน ฉันจะดูว่าฉันจะทำอะไรได้นะ
9. I care very little about this.
"I care very little about this." ประโยคนี้ใช้ "care" เหมือนกับ "I don't care."
Oh, I care very little about this. I was only at this meeting because I was forced to come. โอ้ ฉันไม่ได้แคร์เรื่งนี้เลย ฉันมาประชุมเพียงเพราะถูกบังคับให้มา
I care very little about this, and I don’t see why talking about it will help any of us improve our company situation. ฉันไม่ค่อยสนใจเรื่องนี้เท่าไหร่ และฉันไม่เห็นว่าเหตุการพูดถึงเรื่องนี้จะช่วยให้ทุกคนปรับปรุงสถานการณ์ของบริษัทได้
I care very little about this, and I think you should raise this point with your superiors. ฉันไม่ได้แคร์เรื่งนี้เลย และฉันคิดว่าคุณควรยกประเด็นนี้กับหัวหน้าของคุณ
Looking to move to Sweden but don’t have a job offer yet? Thanks to the new Swedish job seeker visa, for highly qualified persons to look for work or start a business, can enter Sweden for minimum 3 months and up to 9 months to look for employment or start your own business.
Let’s have a look at the requirements below
New requirements for jobseeker visa application
You need to have an advanced degree (master’s degree, PhD, advanced vocational degree/professional degree)
Have the intention of seeking employment or looking into the possibility of starting your own business in Sweden
Be able to support yourself financially during the entire residence period (at least SEK13,000 (US$ ~1,275+) per month)
Have a comprehensive health insurance
Have a passport that is valid for the entirety of the intended stay
Be located outside of Sweden
Note: It is not possible to bring any family members with you on this permit. However, if you find employment you can apply for a work permit which will allow family members to join you in Sweden. It is not permitted to work on the job seeker permit. If you find employment you need to apply for a work permit in order to start working. However, you are permitted to start working immediately after the work permit application has been submitted (you do not need to wait for it to be approved).
What counts as a comprehensive health insurance? A comprehensive health insurance is one that covers emergency care and other medical care, hospitalisation, dental care, and repatriation for medical reasons. Generally, a good and comprehensive travel insurance will cover these things. It is important to have proof that the insurance is valid for the entire residence period.
Requirements for using the e-service In order to make an application, you will need
digital copies of the pages in your passport that show your personal data, photo, signature, passport number, issuing country, period of validity, entry stamps and if you have permission to live in countries other than your country of origin (read more about what the copies must look like)
digital copies of examination certificate
digital copies of official transcript of academic record that shows the courses included in your education
digital copies of bank statements or other documents showing that you have sufficient funds to support yourself during the period for which you are applying for a residence permit. If permission from a central bank or the equivalent is required to take out the money from your country, you must include such a permit
digital copies of documents showing that you have comprehensive health insurance that is valid for care in Sweden
digital copy of a signed letter of consent that gives the Swedish Council for Higher Education (UHR) the right to contact higher education institutions in your home country to verify your educational documents (download letter of consentPdf, 1.3 MB, opens in new window.)
be able to pay any fee for the application by credit card or debit card.
You may need to translate some documents
If your examination certificate and official transcript are issued in a language other than Swedish or English, they have to be translated into Swedish or English. The translation must be done by an authorised translator. Enclose copies of the original documents and the translated documents to your application
Before you complete your application
Make sure that the information on the documents you attach is clearly visible. Important information such as your name must appear in the documents. The documents should also be translated into Swedish or English by an authorised public translator, if they are issued in another language. When attaching a translated document, you should always provide a copy of the original document. The documents should be as recently issued as possible (proof of insurance, bank statements and any translations).
You must have a valid passport
Send copies of the pages in your passport that show personal data, photo, signature, passport number, issuing country, period of validity and if you have permission to live in countries other than your home country. It is important that the full passport pages are present on the copies. Numbers and characters at the very top and bottom of the pages must also be clearly visible. The passport must be valid for the time that you will be in Sweden.
You must enclose copies of the pages in your passport which show:
personal data
period of validity
country of issue
signature
if you are authorised to live in countries other than your country of origin.
If you can not apply in the e-service, fill the form here Application Form
You must submit the form and attached documents at a Swedish embassy or consulate-general in your country of residence. If it is not possible to apply in your country, you must apply at the embassy or consulate-general that is closest to the country where you live. Contact the embassy or consulate-general before submitting your application for more information. If you are applying at an embassy or a consulate-general you pay the fee when handing in your application. For information regarding the fee, contact the embassy in question or the consulate as they do not follow the same fee regulations as the Swedish Migration Agency.
Once we have received your application Once you have submitted an application for a residence permit, the Swedish Migration Agency takes a decision about the case. The permit may be granted for a minimum of three months and for no more than nine months
After the decision If you get a permit for more than three months, you will receive a residence permit card. The card is proof that you have permission to be in Sweden and contains your fingerprints and a photo of you, among other information.
If you do not need an entry visa, you should make an appointment to provide fingerprints and be photographed after arriving in Sweden. However, please note that you need to apply for and receive your permit before you travel to Sweden.
***If you have been granted a residence permit to seek employment or investigate the conditions for starting a business, you are not allowed to work while you are in Sweden.
If you get a job in Sweden or start your own business If you get a job in Sweden during the permit period, you can apply for a work permit from within the country. You are not allowed to start working before you have applied for the new permit (work permit).
Once you have applied for a work permit, you will be able to work while the Swedish Migration Agency processes your new application. You are only allowed to work for the employer and in the profession for which you have applied for a permit.
Now my new collection , it's starting to come together. I was thinking about my 1st time launching my brand in Sweden. Small but Cozy!!! Alright Annie!!!! You can do it. See you soon!
ตอนนี้ Collection ใหม่เริ่มเป็นรูปเป็นร่างแล้ว คิดถึงตอนที่ Launch ครั้งแรก "งาน Launch แบรนด์ของแอนในสวีเดน เล็กๆแต่อบอุ่น" โอเค แอนนี่!!!! เราต้องทำได้ See you soon Stockholm!
พูดง่ายๆ “Do you” ก็คือจะหมายถึงสิ่งที่คุณทำ,สิ่งที่เรามีหรือสิ่งที่เราทำ เช่น ร้องเพลง, เต้น , กิน และผู้ถาม “Do you” ถามสิ่งที่กระทำที่เป็นข้อเท็จจริงหรือความคิดเห็นและเป็นความจริงตามที่พูด (The speaker is asking for actions that are facts or opinions and are true as we speak.) เราก็แค่จำโครงสร้างประโยคเท่านั้นเองค่ะ
โครงสร้างประโยคก็คือDo you + กริยาช่องที่ 1 (infinitive verb)
กริยาช่องที่ 1 (infinitive verb) เช่น พวก action words อย่างเช่น eat, sleep, dance, play ฯลฯ